สอท. แก๊งคอลฯ ใช้ AI หลอกนายกฯ มีฐานปฏิบัติการอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่นายกรัฐมนตรีตกเป็นเป้าหมายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยกลุ่มมิจฉาชีพได้ใช้เทคโนโลยีเสียง AI ปลอมเป็นเสียงของบุคคลที่นายกรัฐมนตรีรู้จักเพื่อหลอกลวง ซึ่งเป็นรูปแบบอาชญากรรมที่กำลังแพร่หลายในปัจจุบัน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ระบุว่า ฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยอาศัยข้อมูลส่วนตัวที่หาได้จากระบบออนไลน์ในการหลอกลวงเหยื่อ นอกจากนี้ แก๊งเหล่านี้ยังมีวิธีการหลากหลาย เช่น การอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ให้บริการ หรือการข่มขู่ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา มีผู้เสียหายจำนวนมากถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน แม้จะมีมาตรการปราบปรามที่เข้มงวด
เกี่ยวกับข้อเสนอของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ให้ตัดสัญญาณแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์เผยว่า ทางหน่วยงานไทยได้ดำเนินการร่วมกับหลายภาคส่วนทันที โดยสามารถเปิดปฏิบัติการในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการปราบปรามยังมีความท้าทาย เนื่องจากแก๊งเหล่านี้มักปรับเปลี่ยนวิธีการและใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายชัดเจนตั้งแต่ต้นในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเน้นทั้งการปราบปรามอย่างจริงจังและการป้องกันในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มีความซับซ้อน เนื่องจากเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดหลายชาติ
พล.ต.ท.ไตรรงค์มองว่าการหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมา ซึ่งได้เริ่มพูดคุยกับผู้ประกอบการที่ลงทุนในประเทศ ถือเป็นสัญญาณที่ดี นอกจากนี้ ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลครั้งที่ 5 ยังมีการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และแก๊งสแกมเมอร์อย่างเป็นระบบ
ผบช.สอท. ได้ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะกรณีที่มีการอ้างตัวเป็นบุคคลใกล้ชิดหรือเจ้าหน้าที่ พร้อมแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลทุกครั้ง และรายงานเหตุน่าสงสัยต่อเจ้าหน้าที่ทันที
ภาพจาก: AFP