รีเซต

BBL โบรกฯ คาดกำไร Q3/67 ที่ 1.1 หมื่นลบ. ประกาศงบพรุ่งนี้

BBL โบรกฯ คาดกำไร Q3/67 ที่ 1.1 หมื่นลบ. ประกาศงบพรุ่งนี้
ทันหุ้น
16 ตุลาคม 2567 ( 15:39 )
24
BBL โบรกฯ คาดกำไร Q3/67 ที่ 1.1 หมื่นลบ. ประกาศงบพรุ่งนี้

#BBL #ทันหุ้น-โบรกเกอร์คาดการณ์ผลดำเนินงานไตรมาส 3/67 ของหุ้นธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ที่คาดว่าจะประกาศในวันพรุ่งนี้(17 ต.ค.67) โดยคาดว่ากำไรจะอยู่ในระดับ 1.1 หมื่นล้านบาท อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน พร้อมทั้งคาดการณ์แนวโน้มไตรมาส 4/67 และทั้งปี 2567 รวมถึงประเมินราคาเป้าหมายและคำแนะนำการลงทุน

 

บล.ทรีนีตี้ คาดการณ์ว่า BBL จะมีกำไรไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 11,088 ล้านบาท ลดลง 6% QoQ และลดลง 2% YoY โดยคาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอ่อนตัวลง 2% QoQ จากแนวโน้มสินเชื่อและ NIM ที่หดตัว ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอาจอ่อนตัวลงราว 5%  QoQ โดยหลักเป็นผลจากการลดลงของกำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุน เนื่องจากในไตรมาส 2/67 ฐานค่อนข้างสูง และคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้จะลดลงราว 10% เนื่องจากอาจเห็นการก่อตัวของ NPL ที่ลดลง 

 

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/67 อาจเห็นกำไรอ่อนตัวตามฤดูกาล ซึ่งเป็นปกติในทุกปี และยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2567 อยู่ที่ 41,531 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน

 

ส่วนแนวโน้มในปี 2568 คาดว่ากำไรจะเติบโตดีขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังภาครัฐมีการเร่งเบิกจ่ายมากขึ้น บวกกับมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อ BBL เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ 

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 179 บาท มองว่าราคาหุ้นยัง Laggard 

 

บล.กรุงศรี คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ของ BBL อยู่ที่ 11,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% YoY เพราะรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) เพิ่มขึ้น 23% แต่หากเทียบกับ QoQ จะลดลง 3% จากรายได้ดอกเบี้ยลดลง จากการ  repricing fixed deposit และสินเชื่อลดลง สำหรับคุณภาพสินทรัพย์คาดว่า  NPL Ratio อยู่ที่ 3.30% เพิ่มจากไตรมาส 2/67 ซึ่งอยู่ที่ 3.20% ตามความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ 

 

ฝ่ายวิจัยกรุงศรีได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-2569 ขึ้นปีละ 3% จากค่าใช้จ่ายสำรองลดลง โดยกำไรจะอยู่ที่ 4.46 หมื่นล้านบาท และ 4.53 หมื่นล้านบาท เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท และการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นต้น 

 

กลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำถือ BBL และให้ราคาเป้าหมายปี 2568 อยูที่ 150 บาท มองว่า BBL ได้ประโยชน์จากมาตรฐานกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐช้าสุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ เพราะสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มภาคธุรกิจรายใหญ่ นอกจากนั้นมองว่าอาจไม่เห็นการปรับเพิ่ม dividend payout ratio จาก BBL อยากเพิ่ม CET1 ให้อยู่ในระดับ 16% ปัจจุบันอยู่ที่15.3% อย่างไรก็ตาม BBL ยังเป็นธนาคารที่มีความเพียงพอของสำรองมากสุดในกลุ่มธนาคาร เห็นได้จาก Coverage Ratio คงระดับสูงที่ราว 260%

 

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดการณ์ว่า BBL จะมีกำไรไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 10,345 ล้านบาท ลดลง 8.9% YoY และลดลง 12.4% QoQ จากการตั้งสำรองที่ลดลง และกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่ลดลง สินเชื่อ ส.ค.ยังคงหดตัวต่อเนื่องจากเเดือนก่อน และจะทำให้สินเชื่อไตรมาส 3/67 หดตัวลงไปด้วย พร้อมทั้ง NPL อาจจะยังเพิ่มขึ้นต่อ 

 

ฝ่ายวิจัยฟิลลิปฯ ยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2567 ของ BBL อยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% จากปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และอัตราดอกเบี้ย โดยแนะนำทยอยซื้อ ให้ราคาพื้นฐานปี 2568 ที่ 169 บาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง