รีเซต

บิ๊กPTTเคลียร์ทุกปม ธุรกิจเพื่ออนาคตคืบ

บิ๊กPTTเคลียร์ทุกปม ธุรกิจเพื่ออนาคตคืบ
ทันหุ้น
19 ธันวาคม 2565 ( 05:20 )
97
บิ๊กPTTเคลียร์ทุกปม ธุรกิจเพื่ออนาคตคืบ

#PTT #ทันหุ้น – “อรรถพล” ลั่น PTT มีธรรมาภิบาลตรวจสอบได้ ควบคู่ดูแลประชาชน ชี้ที่ผ่านดูแลไม่ให้น้ำมันขาดแคลน ส่วนการลงทุนเมียนมาไม่ใช่การละเมิดสิทธิมนุษยชน ประกาศชัดบริษัทแข็งแกร่งพร้อมใช้เงินปูรากฐานอนาคต ธุรกิจยาคืบ ลุ้นยาชะลอวัยปลายปีหน้า เดินเกมโลจิสติกส์ บริหารรางและการบิน ลดต้นทุนภาคธุรกิจ ผนึกซาอุดีอาระเบียดันไทยฮับไฮโดรเจน แผนชัด NET ZERO

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า ปตท.ยึดถือการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ทั้งในด้านการแต่งตั้งผู้บริหาร ตลอดจนการช่วยดูแลประชาชน ซึ่งสิ่งที่ ปตท. ให้ความสำคัญ คือ พลังงาน จะต้องไม่ขาดแคลน จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมาไทยไม่มีปัญหาด้านการขาดแคลนน้ำมันเหมือนบางประเทศ ทั้งๆ ที่ไทยเป็นผู้บริโภคน้ำมันสูงสวนทางกับกำลังการผลิตที่น้อย

 

ส่วนการที่มีกองทุนบางแห่งยกข้ออ้างด้านสิทธิมนุษยชนในการหยุดลงทุนหุ้น PTT ยืนยันว่า การที่บริษัทเข้าลงทุนและซื้อก๊าซจากแหล่งเมียนมานั้น ไม่ใช่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด แต่เป็นการช่วยประชาชนเมียนมามากกว่า ภาคธุรกิจกับการเมืองควรแยกออกจากกัน

 

@ จับยาธุรกิจยารุ่ง

 

นายอรรถพล ระบุว่า วิสัยทัศน์ของ ปตท. จำเป็นต้องใช้ช่วงเวลาที่ ปตท. มีความแข็งแกร่งขณะนี้ เดินหน้าธุรกิจใหม่ที่เป็นเมกะเทรนด์ต่อยอดออกไปจากพลังงานเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศและบริษัท โดยเฉพาะกลุ่ม "ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต" หรือ Life Science ที่ปัจจุบันมีความคืบหน้ามากกำลังร่วมกับผู้เชี่ยวชาญคิดค้นยาชะลอวัยที่เข้าไปช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอ ช่วงของการทดลองเบื้องต้นได้ผลค่อนข้างดี แต่ยังต้องใช้เวลาทดลองถึงปลายปีหน้า หากประสบความสำเร็จจะเป็น S-CRUVE ใหม่ให้กับ ปตท.ได้ และเป็นการช่วยเศรษฐกิจให้กับประเทศได้จากการที่ต่างชาติจะเข้ามารับบริการเป็นการท่องเที่ยวด้านเมดิคัล

 

นอกจากนี้ ปตท. ถือหุ้นใหญ่ใน Lotus Pharmaceutical บริษัทผลิตยาสามัญที่มีนวัตกรรมกว่า 250รายการ ฐานตลาดในสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย ซึ่ง Lotus มีจุดเด่นในด้านการเข้าซื้อสิทธิบัตรยา ตลอดจนการเตรียมพร้อมในการพัฒนายาที่สิทธิบัตรใกล้หมด ทำให้มีความสามารถในการแข่งขันได้ดี ปตท. การเข้าถือหุ้นบริษัท อินเตอร์ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจนวัตกรรมยา และการร่วมทุนกับ บริษัท นำวิวัฒน์การช่าง(1992) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ (Sterilization) ให้โรงพยาบาลและสถานพยาบาลทั้งในและต่างประเทศ มากกว่า 50 ปี ทั้งนี้บริษัทยังคงหาทางลงทุนในด้าน Life Science อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลาดยามีมูลค่าสูงนับแสนล้านดอลลาร์

 

@ เดินหน้าธุรกิจขนส่ง

 

ปตท. ยังได้รุกธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งบก น้ำ อากาศ จัดตั้งบริษัทแล้ว ปัจจุบันอยู่ในช่วงการเจรจากับ "การรถไฟแห่งประเทศไทย" ในการเข้าไปบริหารราง และ ปตท. จะเข้าไปบริหารเครื่องบินเพื่อการขนส่ง และคลังสินค้าของการบินไทย และจะเชื่อมโยงทั้งอากาศและราง เพื่อที่จะช่วยลดต้นทุนขนส่งของภาคธุรกิจทำให้เกิดการแข่งขันได้  โดยปีหน้าจะเน้นเรื่องการขนส่งทุเรียนไปสู่ประเทศจีน ร่วมกับพันธมิตรจีน ปตท.จะลงทุนระบบขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) ทำให้การส่งออกทุเรียนไปจีนมีคุณภาพ ตลอดจนบริหารจัดการเพื่อตอบสนองการบริโภคทุเรียนได้ทั้งปี เป็นการสนับสนุนเกษตรกร

 

@ไทยฮับไฮโดรเจน

 

ไม่เพียงเท่านี้ ปตท. ยังลงทุนธุรกิจเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีมูลค่าสูง พลาสติกมาร์จิ้นสูง ผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์  AI Robotic ที่ขณะนี้มีความคืบหน้ามากจาก บริษัท AI and Robotics Venture หรือ ARV ผู้ประดิษฐ์หุ่นยนต์ ยานยนต์ใต้น้ำ และธุรกิจโดรน และตั้งบริษัท เมฆาเทคโนโลยี เพื่อรุกธุรกิจ "คลาวด์ เซอร์วิส" เสริมระบบการวิเคราะห์ข้อมูล ส่วน อีวี ก็ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้เริ่มดำเนินการเปิดหน้าดินแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2 ปี ซึ่งจะรองรับการผลิตรถยนต์อีวีได้ ล่าสุด ปตท.ยังได้เดินหน้าธุรกิจไฮโดรเจนอย่างเป็นรูปธรรมโดยเซ็นเอ็มโอยูกับกลุ่มซาอุดีอาระเบียเพื่อให้ไทยเป็นฮับไฮโดรเจน

 

"เรารู้ว่าเทรนด์ข้างหน้าเป็นอย่างไร ซึ่ง ปตท. ก็จะดำเนินการ โดยอาศัยผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากออยล์แอนด์แก้ส ซึ่ง ปตท. ก็จะกันเงินออกมาเพื่อลงทุนธุรกิจในอนาคตด้วย เรียกว่าต้องเอากำไรส่วนหนึ่งไปหว่านอนาคตด้วย"

 

@แผนชัด NET ZERO

 

กลุ่ม ปตท. ยังมีแผนการลดโลดร้อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้า NET ZERO ปี 2050เร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ มีกลยุทธ์ ตัวชี้วัด และแผนปฏิบัติการรองรับชัดเจน มีการจัดตั้งคณะทำงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ กลุ่ม ปตท. ที่เรียกว่า G-NET และการวางกลยุทธ์ 3 ป. เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ประกอบด้วยการ ปรับ เปลี่ยน ปลูก

 

โดยการปรับจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ราว 30%จากการปรับกระบวนการดำเนินธุรกิจเน้นการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อลดการปล่อยมลพิษ การดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) ในพื้นที่บริเวณทะเลอ่าวไทยซึ่งมีชั้นใต้ดินที่จะกักเก็บคาร์บอนได้ถึง 7 ล้านล้านตัน รวมถึงการนำคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ประโยชน์ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์

 

ส่วนการเปลี่ยนจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 50%ประกอบด้วยการเปลี่ยนพอร์ตลงทุนมาทุมเน้นพลังงานสะอาด ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเติบโตแตะ 12,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573จากปีนี้ที่อยู่ที่ 3 พันเมกะวัตต์ การขายธุรกิจถ่านหินออกไป ซึ่งเตรียมปิดดีลแล้ว ตลอดจนการเข้าสู่ธุรกิจอีวี

 

และการปลูกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 20% โดยกลุ่ม ปตท. มุ่งปลูกป่าเพิ่มเติม รวม 2ล้านไร่ ภายในปี 2030 แบ่งเป็นการดำเนินการโดย ปตท. 1ล้านไร่ และความร่วมมือบริษัทในกลุ่ม ปตท. อีก 1ล้านไร่

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง