BH เล็งไตรมาส 3 ปัจจัยฤดูกาลเอื้อ ฐานคนไข้ IPD ดีด

#BH #ทันหุ้น – BH ลุ้นผลงาน Q3/2568 รับปัจจัยฤดูกาล ปริมาณผู้ป่วยใน (IPD) เพิ่มสูงขึ้น เร่งขยายฐานคนไข้ต่างประเทศ โดยเฉพาะเมียนมา ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลางใหม่ๆ เช่น กาตาร์, UAE, ซาอุดีอาระเบีย เพื่อชดเชยฐานคนไข้คูเวต ชูจุดแข็งด้านการรักษาโรคซับซ้อนร่วมกับ VitalLife ด้านโบรก ฟันธงรพ.ขยายฐานผู้ป่วยต่างชาติกลุ่มใหม่สำเร็จ และการปรับขึ้นค่ารักษา 4% แนะ “ซื้อ” เป้าปี 2569 อยู่ที่ 225 บาท
แหล่งข่าวจากบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2568 มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น สอดคล้องกับปัจจัยฤดูกาลเนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/2568 ต่อเนื่องถึงช่วงต้นไตรมาส 4/2568
“สภาพอากาศแปรปรวน เป็นปัจจัยให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสหลายสายพันธ์ อาทิ ไข้หวัดใหญ่ โรตาไวรัส (Rotavirus) ส่งผลให้ปริมาณผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (IPD) เร่งตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/2568 และต่อเนื่องตลอดไตรมาส 3/2568 มาถึงช่วงต้นไตรมาส 4/2568 นี้”
รุกพอร์ตต่างชาติ
พร้อมกันนี้ โรงพยาบาลเร่งขยายฐานคนไข้ทั้งคนไข้ในประเทศเข้าสู่ฐานคนไข้กลุ่มใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง คนไข้ในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะเมียนมา ซึ่งเติบโตระดับ Double Digits, รวมถึงคนไข้จากภูมิภาคตะวันออกกลาง อาทิ บังกลาเทศ, กาตาร์, UAE, ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง สามารถชดเชย (Offset) ฐานคนไข้จากคูเวตได้อย่างมีนัยสำคัญ
“ในภูมิภาคเอเชียคนไข้ครอบคลุมทั้งอินโดนีเซีย, จีน โดยเฉพาะเมียนมานี่พอประชาชนสามารถเดินทางได้ คนไข้กลับเข้ามารักษาเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนคนไข้ไทยนั้นนอกจากคนไข้ปัจจุบันแล้วโรงพยาบาลได้ขยายลงสู่คนกลุ่มใหม่ อาทิเจน Y เจน Z สำหรับคนไข้ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ปัจจุบันขยายครอบคลุมหลายประเทศมาก”
แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2568 โรงพยาบาลมุ่งรักษาฐานคนไข้ให้ทรงตัวต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 3/2568 เนื่องจากไตรมาส 4/2568 มีวันหยุดยาวหลายช่วง ประกอบกับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) มีแนวโน้มชะลอตัวลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) เบื้องต้นโรงพยาบาลได้ประสานกับพันธมิตรที่หลากหลายทั้งบริษัทประกันสุขภาพ องค์กรขนาดใหญ่ที่มีโปรแกรมตรวจสุขภาพให้พนักงานในองค์กร รวมถึงคนไข้ต่างประเทศกลุ่มที่ต้องการเข้ามารักษาโรคซับซ้อนตามกำหนดเวลา
ขณะเดียวกันโรงพยาบาลดึงจุดแข็งของโรงพยาบาล และศูนย์สุขภาพ VitalLife Wellness Center (Collab) นำเสนอแผนการรักษาตั้งแต่เริ่มต้น – การติดตามผลการรักษาคนไข้เป็นรายเคส ควบคู่ดำเนินกลยุทธ์เร่งการเติบโตร่วมกับพันธมิตรหลากหลาย อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการบัตรเครดิต, บริษัทหลักทรัพย์ผู้บริหารกองทุน Wealth, โชว์รูมรถยนต์แบรนด์ดัง ฯลฯ ในการให้บริการลูกค้าที่ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพระยะยาว, กลุ่มลูกค้าที่ต้องการป้องกันการเกิดโรคทางพันธุกรรม, กลุ่มที่ต้องการชะลอวัยอย่างเป็นระบบ (Aging Population)
แนะ “ซื้อ” เป้า 225 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2568 ที่ 2,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% YoY และเพิ่มขึ้น 12.1%QoQ หนุนจากการกลับเข้าใช้บริการของกลุ่มผู้ป่วยตะวันออกกลาง เช่น กาตาร์, UAE และ ซาอุดีอาระเบีย บวกกับผู้ป่วยชาวเมียนมา และบังกลาเทศเพิ่มขึ้น ชดเชยผู้ป่วยจีนและกัมพูชาที่ยังปรับตัวลดลง
ขณะที่รายได้ผู้ป่วยไทย แม้คาดฟื้นตัว QoQ จากการระบาดของโรคตามฤดูกาล เช่น ไข้หวัดใหญ่ แต่ทรงตัว YOY จากฐานโรคระบาดที่สูงมากในปีก่อน และแรงกดดันทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม BH ได้ปรับขึ้นค่ารักษาประมาณ 4% ตั้งแต่ต้นปี และไตรมาสนี้ไม่มีผลกระทบจากฐานผู้ป่วยรัฐสวัสดิการคูเวต (GOP) เนื่องจากรายได้ผู้ป่วยกลุ่มนี้หายไปตั้งแต่กลางปี 2567 จึงไม่ส่งผลกระทบเชิงเปรียบเทียบรายได้ระหว่างงวด 3Q/2567 และ 3Q/2568
พร้อมกันนี้คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 52.5% เพิ่มขึ้นจาก 51.6% ใน 3Q/2567 และ 52.3% ใน 2Q/2568 ตามความรุนแรงของโรคที่เพิ่มขึ้น หากกำไรงวดไตรมาส 3/2568 เป็นไปตามคาด จะส่งผลให้การดำเนินงาน 9M/2568 คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ที่ทำไว้ 7,582 ล้านบาท ราคาเหมาะสมปี 2569 ที่ 225 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
