รีเซต

CIMBT กำไรสุทธิ 9 เดือนหดตัว 3.2% หลังตั้งสำรองพุ่ง 59.5%

CIMBT กำไรสุทธิ 9 เดือนหดตัว 3.2% หลังตั้งสำรองพุ่ง 59.5%
ทันหุ้น
21 ตุลาคม 2568 ( 11:01 )
15

CIMBT กำไรสุทธิ 9 เดือนหดตัว 3.2% หลังตั้งสำรองพุ่ง 59.5%

#ทันหุ้น #CIMBT กำไรสุทธิ 9 เดือนหดตัว 3.2% หลังตั้งสำรองพุ่ง 59.5% สกัดผลบวกจาก PPOP ทะยาน 24.6% จากการบริหารค่าใช้จ่ายเชิงรุก

นายวุธว์ ธนิตติราภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 10,549.4 ล้านบาทลดลง 236.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.2 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2567 สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิร้อยละ 15.1 และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิร้อยละ 0.5 สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่นร้อยละ 34.0   กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 5,248.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน  1,037.5 ล้านบาทหรือร้อยละ 24.6 เนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานร้อยละ 19.4  สุทธิกับการลดลงของรายได้จากการดำเนินงานร้อยละ 2.2  กำไรสุทธิจำนวน 1,830.4 ล้านบาท ลดลงจำนวน 59.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.2 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันสาเหตุหลักเกิดจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.5 โดยเป็นการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังและเหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2568 และ 2567 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 1,094.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.1 จากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อ   รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงจำนวน 5.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.5 สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัย สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่นจำนวน 863.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 34 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเงินลงทุน

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2568 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2567 ลดลงจำนวน 1,273.5 ล้านบาทหรือร้อยละ 19.4 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของค่าเผื่อการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขายและ การลดลงของค่าภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง  สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน   ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 อยู่ที่ร้อยละ 50.2 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 61.0

อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2568    อยู่ที่ร้อยละ 1.9 ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 2.3 เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 242.1 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.7  เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567   กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 318.5 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.7 จากสิ้นปี 2567 ซึ่งมีจำนวน 324.0 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio)   ของกลุ่มธนาคารลดลงเป็นร้อยละ 76.0 จากร้อยละ 77.6 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567

สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น    อยู่ที่ร้อยละ 2.6 คงที่เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567  เป็นผลจากการที่กลุ่มธนาคารมีนโยบายการจัดการความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อที่รัดกุม มาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงแนวทางในการเรียกเก็บหนี้จากสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีอยู่ และการแก้ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 อยู่ที่ร้อยละ 158.1  เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 149.0  ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 9.8 พันล้านบาท   ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1.5 พันล้านบาท

เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 61.4 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 21.1 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 16.6

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง