ส.อ.ท. จับมือ ธปท. คุม “บาทแข็งค่าผิดปกติ” สกัด 3 ปัจจัยป่วน ทองคำ คริปโท ทุนสีเทา

ส.อ.ท. จับมือ ธปท. คุม “บาทแข็งค่าผิดปกติ” สกัด 3 ปัจจัยป่วน ทองคำ คริปโท ทุนสีเทา
#ทันหุ้น #SET #BOT นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บอกว่า ได้หลังนำคณะผู้บริหาร ส.อ.ท.ร่วมพบปะหารือกับคณะผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นำโดยนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท.ว่า การหารือร่วมกันจะช่วยสร้างความเข้าใจและช่วยลดช่องว่าง เพราะต่างเห็นพ้องต้องกันว่าภาวะเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นนนอน มีความผันผวน และแข่งขันรุนแรง ความร่วมมือมือกันจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจเกิดเสถียรภาพ
โดย ส.อ.ท.ได้นำเสนอปัญหาที่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาเงินบาทแข็งค่าผิดปกติไปจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1.การค้าทองคำ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ต้องมีมาตรการควบคุมให้เหมาะสม เช่น การค้าด้วยสกุลเงินดอลลาร์ที่จะช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาท 2.การซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี่ และ 3.การเคลื่อนย้ายทุนสีเทา ซึ่งจากครั้งก่อนที่เราเสนอให้ ธปท.เข้ามาดูแล เงินบาทก็อ่อนค่าลงมาระดับหนึ่ง ซึ่งคิดว่าหากมีมาตรการกวดขันเพิ่มขึ้นจะช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับที่เหมาะสม
อัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน โดย ส.อ.ท.ได้แจ้ง ธปท.ไปว่าค่าเงินบาทที่มีความเหมาะสมในการแข่งขั้นอยู่ที่ 34-35 บาท/ดอลลาร์ แต่การดูแลค่าเงินบาทนั้นจะต้องให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม เพราะหากอ่อนค่ามากเกินไปจะถูกทางการสหรัฐฯ ตอบโต้ว่าใช้มาตรการที่ทำให้เกิดการเบี่ยงเบนค่าเงิน
เงินบาทแข็งค่ามากกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาคส่งผลให้ภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบต้องบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างรอบคอบ เนื่องจากค่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออก โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศคู่แข่งเผชิญมาตรการ Reciprocal Tariff
เนื่องจากประเทศไทยพึ่งพาการส่งออก 60% ของ GDP และจากภาคท่องเที่ยว 10% ของ GDP ค่าเงินบาทแข็งเกินไป เป็นเรื่องที่ กกร.ส่งสัญญาณเรื่องนี้ตลอด เพราะประเทศต้องค้าขายต่างชาติ ถ้าบาทแข็งก็สร้างแรงกดดันต่อภาคส่งออกทันที สินค้าแพงขึ้น และยังกระทบการท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นจึงต้องหาจุดสมดุลปรับค่าเงินบาทอย่าให้แข็งเกินไป โดยปัจจุบันยังขาดการ Connect the Dots ระหว่างหน่วยงานผู้รับผิดชอบในแต่ละกิจกรรมที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท ไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมศุลกากร และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
อย่างไรก็ตาม ธปท.แจ้งกลับมาว่าการดำเนินการบางเรื่อง ธปท.ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้โดยลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นด้วย ซึ่งการขับเคลื่อนผ่านกลไกภาคเอกชนจะมีความคล่องตัวมากกว่า โดยขอให้ ส.อ.ท.ไปรวบรวมข้อมูลว่ามีประเด็นปัญหาอย่างไร และต้องใช้ความร่วมมือจากหน่วยงานใดบ้าง
ขณะที่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ภารกิจหลักของ ธปท. คือ การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1) สร้างเสถียรภาพทางการเงิน โดยเฉพาะดูแลให้เงินเฟ้อในระยะปานกลางอยู่ในระดับต่ำและไม่ผันผวน รวมถึงไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืดและให้เงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในระยะปานกลาง 2) สร้างเสถียรภาพทางระบบสถาบันทางการเงิน โดยสถาบันการเงินเข้มแข็ง มีความมั่นคง สามารถให้บริการลูกหนี้ ประชาชนและธุรกิจได้ต่อเนื่อง และดูแลไม่ให้เกิดจุดเปราะบางในระบบการเงิน และ 3) สร้างเสถียรภาพทางระบบการชำระเงิน ดูแลให้มีระบบมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชน ธุรกิจ และภาครัฐ ทั้งด้านความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และด้วยราคาที่สมเหตุผล
วันนี้ เราอยู่ในจุดที่เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจต่าง ๆ เหมือนกัน และเราจะหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในระดับที่เหมาะสม และเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของประเทศดำรงอยู่ได้
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ธปท.มุ่งรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และไม่ให้ผันผวนมากจนส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรเทาผลกระทบ ตลอดจนผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
