ทำไม TIME ชี้ “AI” คือสิ่งพลิกโลกปี 2025 ? สู่ที่มายกให้กลุ่มผู้นำ AI (Architects of AI) ขึ้นปกคนสำคัญแห่งปี

แซม เจคอบส์ บรรณาธิการบริหารของนิตยสารไทม์ (TIME) เปิดเหตุผลว่าโลกในปีนี้คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญโดย AI ทั้งสังคม เศรษฐกิจ จนยกให้บรรดา “สถาปนิกแห่ง AI” หรือ The Architects of AI เป็นกลุ่มบุคคลแห่งปี 2025 เพื่อหวังให้ผู้คนเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลกในปีนี้
ใครบ้างที่เป็นสถาปนิกแห่ง AI
สถาปนิกแห่ง AI ที่ได้ขึ้นปกนิตยสารไทม์ (TIME) ประกอบไปด้วย
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอบริษัท เมตา (Meta)
ลิซ่า ซู (Lisa Su) ซีอีโอผู้พลิกฟื้นบริษัท AMD (Advanced Micro Devices)
อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เจ้าพ่อเทคโนโลยี ผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัปปัญญาประดิษฐ์ xAI
เจนเซ่น ฮวง (Jensen Huang) ซีอีโอบริษัท Nvidia ผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของโลก
แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอบริษัท OpenAI ผู้ให้กำเนิด ChatGPT
เดมิส แฮสซาบิส (Demis Hassabis) ซีอีโอของบริษัท DeepMind Technologies
ดาริโอ อโมเด (Dario Amodei) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Anthropic
เฟย เฟย หลี่ (Fei-Fei Li) นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน เจ้าของฉายา "เจ้าแม่แห่ง AI"
ที่มาการเลือกบุคคลแห่งปีของ TIME
การเลือกบุคคลแห่งปีเป็นหนึ่งในวิธีการนำเสนอของ TIME เพื่อให้ผู้อ่านมุ่งความสนใจไปยังผู้คนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตคนจำนวนมากในโลก โดยจุดเริ่มต้นของบุคคลแห่งปีของนิตยสารนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 1927 จนถึงปัจจุบัน และในบางปีได้มีการปรับให้เป็นกลุ่มบุคคล หรือแม้แต่สิ่งของ เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (the personal computer) ในปี 1982 มาแล้วด้วย
แซม เจคอบส์ มองว่า ในปี 2025 นี้ ไม่มีใครที่สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าบุคคลที่จินตนาการ, ออกแบบ, และสร้าง AI อีกแล้ว ซึ่งเป็นที่มาของกลุ่มบุคคลในปีนี้ที่ได้ขึ้นปกนิตยสารจากการสร้างผลกระทบในหลากหลายแง่มุมของ AI
ปี 2025 คือปีของ AI
แม้ว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ของโลก แต่ความสามารถขั้นสูงและผลกระทบระดับโลกได้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในปี 2025 นี้ ซึ่ง AI กลายเป็น "คำตอบ" สำหรับทุกคำถามและเป็นเทคโนโลยีที่มีผลกระทบมากที่สุดในยุคปัจจุบัน
TIME ชี้ว่า ความสามารถของ AI นั้นเพิ่มขึ้นเป็นจากเดิม 2 เท่า มาเกือบ 2 ครั้ง ภายในปีเดียวกัน สะท้อนถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในหลายภาคส่วน เช่น
ความก้าวหน้าเหนือขีดจำกัด AI ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการ แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ที่แก้ไม่ได้มา 30 ปี, อำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับวาฬ, และมีประสิทธิภาพเหนือกว่าโมเดลทำนายเฮอริเคนแบบดั้งเดิม
การปฏิวัติองค์กร ผู้นำธุรกิจทุกคนต่างกล่าวถึง AI ในการวางแผนอนาคต เนื่องจาก AI ได้ เร่งการวิจัยทางการแพทย์ และ เพิ่มผลผลิต ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยทำงานที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงให้เสร็จได้ในไม่กี่วินาที
สถาปนิกแห่ง AI ก่อร่างสร้างผล AI ไปทั่วโลก
AI ต่อนโยบายผู้นำในระดับโลก
นิตยสาร TIME ได้ยกเหตุการณ์ช่วงพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ในสหรัฐอเมริกาที่มักเชิญผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศมารวมตัวกันนับตั้งแต่ปี 1801 เป็นตัวชี้วัดสำคัญว่า AI ทรงอิทธิพลแค่ไหน
โดยพิธีฯ ครั้งล่าสุดในปี 2025 บรรดาผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ต่างพากันตบเท้าเข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แซม อัลท์แมน รวมถึงเจฟฟ์ เบโซส ที่ต่างเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม AI
โดยช่วงเวลาเดียวกัน จีนได้สร้างกระแสการเปิดตัว AI คลื่นลูกใหม่ (ในเวลานั้น) อย่างดีปซีค (DeepSeek) ที่ทรงพลังแต่ใช้ทรัพยากรการพัฒนาต่ำ สะเทือนเหล่าบริษัทผู้พัฒนา AI ในสหรัฐอเมริกาที่ลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลแต่ยังขาดความคืบหน้าที่สำคัญ
ทำให้ทั้งเอกชนรวมไปถึงรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต่างต้องการคืนความเชื่อมั่น ทำให้เกิดโครงการที่เรียกว่า สตาร์เกต (Stargate) ที่จะเป็นการลงทุนศูนย์ข้อมูลเพื่อพัฒนา AI มูลค่ารวมกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 16 ล้านล้านบาท ซึ่งมี Sam Altman, Larry Ellison, และ Masayoshi Son (SoftBank) เป็นกลุ่มทุนแรกเริ่ม
คำถามที่มาพร้อมความก้าวหน้าของ AI
แม้ว่าการเร่งพัฒนา AI ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างบริษัทจนยกระดับความสามารถ AI อย่างก้าวกระโดด และสร้างผลกระทบต่อสังคมเป็นวงกว้าง ทั้งในแง่การพัฒนาสิ่งที่อ่อนไหวอย่างการวิจัยทางการแพทย์ การทดแทนแรงงานมนุษย์ แต่ก็สร้างการถกเถียงทั่วโลกว่า AI จะกระทบกับมนุษยชาติอย่างไรบ้าง
โดยประเด็นที่สังคมกังวลว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกับความก้าวหน้าของ AI หนีไม่พ้นการสูญเสียตำแหน่งงาน การแพร่กระจายของข้อมูลบิดเบือน (Misinformation) ที่ถูกสร้างโดย AI การใช้พลังงานมหาศาล และการผูกขาดเทคโนโลยีระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในกลุ่มบริษัทที่ก้าวหน้าด้าน AI มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
บทสรุปที่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุค AI
แซม เจคอบส์ บรรณาธิการบริหารของนิตยสารไทม์ (TIME) ระบุในบทความไว้ว่า “มนุษยชาติกำลังก้าวไปในโลกที่ถูกกำหนดโดย AI มากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าการเติบโตของโมเดลเหล่านี้จะอาศัยเครือข่ายประสาทเทียมที่ดูเหมือนจะคัดลอกพฤติกรรมของเราเอง ทั้งเรียนรู้, พูด, โต้เถียง, และหว่านล้อม” แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่มนุษยชาติจะกำหนดทิศทางในการเติบโตของ AI ด้วย
ซึ่งไม่ว่าการเติบโตจะเป็นไปในทิศทางใด เจคอบส์และทีมบรรณาธิการของ TIME ก็เห็นว่ากลุ่มบุคคลที่ก่อสร้างและพัฒนา AI ได้ทำให้เกิดยุคของเครื่องจักรที่คิดได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตผู้คนในปัจจุบันและการก้าวข้ามสิ่งที่มนุษย์ไม่เคยคิดถึงมาก่อน จึงยกให้กลุ่มคนที่เป็นสถาปนิกแห่ง AI (The Architects of AI) เป็นบุคคลแห่งปี 2025 ของ TIME
ทั้งนี้ บทความนี้ของ TNN Tech ได้อาศัย AI ในการช่วยทำความเข้าใจมุมมองของ TIME รวมถึงเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาเรียบเรียงเป็นบทความด้วยเช่นกัน ดังนั้น บทความนี้ก็เป็นอีกจิ๊กซอว์เล็ก ๆ ที่ย้ำว่า AI ได้เปลี่ยนแปลงปี 2025 และวิถีชีวิตมนุษยชาติไปตลอดกาล
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
