รีเซต

สัมผัสเสน่ห์ “เซี่ยงไฮ้” มหานครไฮโซสัญลักษณ์จีนยุคใหม่

สัมผัสเสน่ห์ “เซี่ยงไฮ้” มหานครไฮโซสัญลักษณ์จีนยุคใหม่
TNN ช่อง16
23 มีนาคม 2567 ( 13:28 )
47

หลังจากประเทศไทยและจีน เริ่มนโยบายวีซ่าฟรี (Visa-free) ตั้งแต่ 1 มีนาคม เป็นต้นมา การท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศคึกคักเป็นอย่างมาก ข้อมูลจากทริปดอตคอม (Trip.com) เอเจนซีท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ของจีน ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ ยอดจองการเดินทางท่องเที่ยวจากไทยสู่จีนเพิ่มขึ้นสามเท่า หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 160 เมื่อเทียบกับปี 2562 และข้อมูลจากรายงานของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ซึ่ง รวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 ฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) นำมาวิเคราะห์ในช่วงวันที่ 1 มกราคม-20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ระบุว่า จากการโปรโมตของบริษัททัวร์ พบว่ามณฑลของจีนที่เป็นที่นิยมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เสฉวน, ยูนนาน,ปักกิ่ง,หูหนาน, และ เซี่ยงไฮ้ ซึ่ง บริษัททัวร์ส่วนใหญ่จะเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยว ราคาตั้งแต่ 16,000-20,000 บาท และ 26,000-30,000 บาท นอกจากนี้ มีทัวร์ไพรเวตที่มีราคามากกว่า 50,000 บาท ด้วย



สำหรับนครเซี่ยงไฮ้ 1ใน 5 จุดหมายปลายทางยอดนิยม มีไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ผู้เขียนมีโอกาสไปสัมผัสมนต์เสน่ห์มหานครแห่งนี้ หลังจากเปิดวีซ่าฟรีได้ 2 สัปดาห์ เรียกได้ว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้คึกคักมากจริงๆ แม้จะเป็นช่วงวันธรรมดา และหากเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือนักขัตฤกษ์นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นรถติดในถนนสายหลักๆ ของเซี่ยงไฮ้บ้าง และในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ออกมาดื่มด่ำบรรยากาศท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันและกลางคืนตามจุดแลนด์มาร์กสำคัญๆของเซี่ยงไฮ้นั้น ไม่ได้มีเพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่นักท่องเที่ยวจีนเอง ก็ออกมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเช่นกัน 



ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน อย่าง ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร ในฐานะรองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน เคยเขียนบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับนครเซี่ยงไฮ้ โดยระบุว่า เซี่ยงไฮ้มีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับมาตรฐานโลกที่พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายถนน รถไฟใต้ดิน และรถไฟความเร็วสูง ตลอดจนท่าเรือ สะพาน และอุโมงค์เชื่อมพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียงและสายแม่น้ำอื่น รวมถึงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมสู่ระดับ 5G ซึ่ง สอดรับกับวิสัยทัศน์ของเมืองที่ต้องการเป็นเมืองต้นแบบของโลกในระยะยาว นอกจากนี้ มหานครแห่งนี้ยังผสมผสานเอาวัฒนธรรมตะวันออกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและกลิ่นอายความเป็นตะวันตกยุคใหม่เข้าไว้ด้วยกัน จนได้ชื่อว่าเป็นปารีสตะวันออกอย่างแท้จริง ดังนั้น มาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีและทันสมัย จึงทำให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองในฝันของคนทำงานและนักท่องเที่ยว โดยแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเยือนหลายสิบล้านคน-ครั้ง และคนไทยจำนวนมากที่เคยเดินทางไปเยือนแล้วก็มักติดใจกลับไปเยี่ยมอีกหลายครั้งเช่นกัน



สำหรับ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเซี่ยงไฮ้ ในด้านศิลปวัฒนธรรม ดร.ไพจิตร แนะนำ 3 วัดสำคัญ ได้แก่ วัดพระหยกขาว, วัดจิ้งอัน, และวัดหลงหวา, พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้, สำนักวางแผนผังเมือง, สวนอวี้หยวน นอกจากนี้ ยังมี เดอะบันด์ (The Bund) ที่คนจีนเรียกว่า ไว่ทัน (Waitan) หรือคนไทยนิยมเรียกขานว่า “หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” บริเวณนี้เคยเป็นแหล่งขึ้นลงสินค้าในอดีต แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาถึงเซี่ยงไฮ้ต้องมาที่นี่เพื่อเช็กอิน และเมื่อมาถึงย่านนี้ จะเห็นตึกหรืออาคารสูงสถาปัตยกรรมแบบยุโรปตะวันตก เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานราชการจีน อาทิ กรมศุลกากร ตลาดซื้อขายทองคำ และสถานกงสุล รวมทั้งสำนักงานและโชว์รูมของกิจการต่างชาติ รวมทั้ง ธนาคารกรุงเทพประจำประเทศจีนที่มีธงไทยโบกไสวคู่กับธงชาติจีนอยู่ด้วย และใกล้ๆ กัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปที่ “หนานจิงลู่” หรือ “หนานจิง” (Nanjing Road ) ถนนคนเดินอันโด่งดังของเซี่ยงไฮ้ และถือเป็นถนนธุรกิจสายแรกของจีน อยู่บริเวณใจกลางเมือง และมีรถไฟใต้ดินผ่านหลายสาย ทำให้มีความคึกคักและสะดวกในการเดินเหมาะกับการเดินเล่นและการช้อปปิ้ง 



นอกจากนี้ ซินเทียนตี้ เป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเดินเล่น ช้อปปิ้ง และใช้เวลาในช่วงเย็นและค่ำ เพราะมีร้านอาหาร บาร์ โรงหนัง และร้านจำหน่ายสินค้าชื่อดังทั้งของจีนและต่างชาติเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง ห้องประชุมพรรคคอมมิวนิสต์แห่งแรก ซึ่ง ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์สำคัญของจีนยุคใหม่ และสำหรับใครที่ชอบอาคารสูงที่ได้รับการออกแบบในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ แนะนำให้ไปย่านผู่ตง พื่นที่แถบนี้เต็มไปด้วยอาคารสูง อาทิ หอไข่มุก (The Oriental Pearl Tower) ,จินเม่าทาวเวอร์ ( Jin Mao Tower), เวิร์ลไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์ (Shanghai World Financial Center) , และเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai tower) อาคารที่สูงสุดของจีนและเป็นอันดับที่ 2 ของโลก บริเวณใกล้กับหอคอยไข่มุก ก็มีโชว์รูมจำหน่ายสินค้าของ Disneyland และ Super Brand Mall ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของกลุ่มธุรกิจเครือซีพี เป็นต้น



สำหรับ เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland) จุดหมายปลายทางสำหรับหลายๆ คน ที่มาเซี่ยงไฮ้รวมทั้งผู้เขียนด้วย ถือเป็นสวนสนุกแห่งที่ 6 ของดิสนีย์ และมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากดิสนีย์แลนด์ใน รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ที่นี่มีโซนเปิดใหม่เอาใจน้องๆ หนูๆ และสายลุยสำหรับคนชอบสวนสนุกให้เพลิดเพลินได้ทั้งวันและไปปิดที่การโชว์ แสง สี เสียง พลุ แบบอลังการงานสวนสนุกสไตล์ดิสนีย์ 



และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่หยิบยกมาเล่าสำหรับการท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้ มหานครที่เป็นสัญลักษณ์ของจีนยุคใหม่ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ มั่งคั่ง และเติบโตเร็ว รวมถึงจะยกระดับเป็นเมืองอัจฉริยะในอนาคตด้วย เชื่อว่าในอนาคตคนไทยจะมีโอกาสได้ไปสัมผัสบรรยากาศ เรียนรู้การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของจีนมากขึ้น จากนโยบายวีซ่าฟรีที่กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนสองประเทศมากขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง