สรุปพอร์ต USB-C ของ iPhone 15 ทำอะไรได้บ้าง มาแล้วต้องใช้ให้คุ้ม!

นับเป็นปีแห่งความสำเร็จของสหภาพยุโรปที่สามารถบังคับให้ Apple เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C บน iPhone ได้ หลังจากครองรักกับพอร์ต Lightning มาร่วม 10 ปี โกยค่า MFi ไปได้มหาศาล แล้วเจ้าพอร์ต USB-C ของ iPhone 15 มีความสามารถอะไรเพิ่มเติมบ้าง มาดูกัน

• ชาร์จกับเพื่อร่วมโลกได้ง่ายขึ้น: ปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ เครื่องเกมพกพา หรือกล้อง ต่างหันมาใช้พอร์ต USB-C กันหมดแล้ว ผู้ใช้งาน iPhone สามารถยืมสายชาร์จเพื่อนมาใช้ได้ง่ายขึ้นต่างจากตอนที่เป็น Lightning
• ชาร์จอุปกรณ์อื่นได้: พอร์ต USB-C ของ iPhone 15 สามารถชาร์จให้อุปกรณ์อื่นได้เร็วด้วยกำลังไฟสูงสุด 4.5W แต่ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าหาทำดีกว่า เพราะแบตเตอรี่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ ลำพังตัวเองก็อาจจะอยู่ไม่พ้นวัน

• ต่อออกจอนอกได้แล้ว: การเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ทำให้เราสามารถใช้ iPhone 15 ต่อออกจอนอกหรือ Displayout ได้ เช่น ผ่านสาย USB-C to HDMI ซึ่งนี่เป็นเรื่องปกติมากสำหรับ Mac และ iPad ครับ
• ต่อความจุเพิ่มได้: โดยพื้นฐาน พอร์ต USB-C รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ความจุอื่น ๆ อยู่แล้ว เช่น แฟลชไดร์, External SSD หรือ SD Card การที่ iPhone 15 เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ก็ทำให้ iPhone 15 รองรับคุณสมบัติเหล่านี้เช่นกัน
• ต่อคีย์บอร์ดเสริมและสาย LAN ได้: การที่ iPhone เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ช่วยให้ Apple สามารถต่อคีย์บอร์ดเสริมที่เป็นพอร์ต USB-C ได้ รวมถึงสามารถต่อสาย LAN หรือ Ethernet ได้ แน่นอนว่าต้องใช้ตัวแปลงช่วยนะ

• หูฟังแบบ USB-C ที่ใช้ได้ทั้ง iPhone และ Mac: ถ้าหากใครที่ชื่นชอบหูฟังแบบมีสายต่อไปก็ไม่ยุ่งยากแล้ว เราสามารถหาหูฟังที่มีสายเป็น USB-C ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง iPhone และ Mac ครับ
• รองรับการต่อกับ HUB: อุปกรณ์เสริมกลุ่ม HUB ทำให้ใช้พอร์ต USB-C ของ iPhone ได้อย่างมีประโยชน์มากขึ้น HUB บางตัวจะมีพอร์ตที่หลากหลาย เช่น USB-C, USB-A, HDMI, Ethernet และ SD Card เป็นต้น ทำให้เราไม่ต้องพกตัวแปลงเยอะ ๆ ให้ยุ่งยาก
• การโอนถ่ายข้อมูลที่ไวขึ้น: เฉพาะ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แบบ USB 3 ช่วยให้การโอนถ่ายข้อมูลไวขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

การที่ iPhone เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ถือว่าเป็นการปลดล็อกประสิทธิภาพหลาย ๆ อย่างที่ควรจะมีตั้งนานแล้ว แต่เนื่องจาก Lightning ทำเงินได้มากกว่า ก็เท่านั้นเอง

ที่มา 9to5Mac, ภาพสาย LAN