เปิดรายงานโลกร้อนปี 2025 “โดมินิกา-จีน” เสี่ยงภัยพิบัติสูงสุด ส่วน “ไทย” ติดอันดับที่ 30

รายงานล่าสุดเกี่ยวกับภัยพิบัติทั่วโลก ระบุประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากภัยพิบัติทางอากาศและสภาพภูมิอากาศในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จนถึงปี พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นปีที่มีข้อมูลสมบูรณ์ที่สุด โดยการศึกษาฉบับนี้จัดทำโดย Germanwatch ในรายงาน Climate Risk Index 2025 พบว่า “เกาะโดมินิกา” ในแคริบเบียน เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด ขณะที่ “จีน” อยู่ในอันดับ 2 ตามมาด้วย ฮอนดูรัส เมียนมา และอิตาลี ส่วนประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 30 

สำหรับ “ดัชนีความเสี่ยงสภาพอากาศ” (Climate Risk Index) เป็นการจัดอันดับประเทศตามระดับความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติทางอากาศและภูมิอากาศ โดยพิจารณาจากความเสียหายทางเศรษฐกิจ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ดัชนีนี้ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบาย นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปเข้าใจความเสี่ยงของประเทศตนเอง และวางแผนรับมือกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับ “เกาะโดมินิกา” มักถูกพายุรุนแรงโจมตีทุก 2–3 ปี โดยพายุเฮอริเคนมาเรียในปี พ.ศ. 2560 ทำความเสียหายกว่า 61,200 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเกือบ 3 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมของเกาะ นอกจากนี้ เกาะยังเคยประสบภัยพายุเฮอริเคนเด็บบี้ในปี พ.ศ. 2543 โอมาในปี พ.ศ. 2551 เอริกาในปี พ.ศ. 2558 และโดเรียนในปี พ.ศ. 2562

ส่วน “จีน” ก็ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2541 และ 2559 รวมถึงพายุไต้ฝุ่นรุนแรงหลายครั้ง นอกจากนี้ อากาศร้อนจัดและภัยแล้งยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้คนและเศรษฐกิจ โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2.38 ล้านล้านบาท และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42,000 คน

ทั่วโลก ภัยพิบัติที่คร่าชีวิตมากที่สุดมาจากอุทกภัย คลื่นความร้อน และพายุ โดยแต่ละประเภทมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200,000 คน ขณะที่ความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงสุดเกิดจากพายุ 4.68 ล้านล้านบาท ไฟป่า 34.1 พันล้านบาท น้ำท่วม 1.57 ล้านล้านบาท และภัยแล้ง 1.19 ล้านล้านบาท

ส่วนประเทศที่มีดัชนีความเสี่ยงต่ำ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ คูเวต ลิเบีย และมัลดีฟส์ ซึ่งนักอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่า เป็นเพราะภูมิภาคตะวันออกกลางไม่ค่อยประสบภัยพายุ ภัยแล้ง หรืออุทกภัย แม้มัลดีฟส์จะถูกคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น แต่ยังไม่ถือว่าเป็นภัยพิบัติทางอากาศหรือสภาพภูมิอากาศสำหรับการศึกษาครั้งนี้

รายงานสรุปว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ส่งผลต่อความถี่และความรุนแรงของเหตุการณ์อากาศสุดโต่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง “ในขณะที่มนุษยชาติกำลังเผชิญกับคลื่นน้ำที่สูงขึ้นและไฟป่าที่รุนแรงมากขึ้น ผลกระทบจากเหตุการณ์อากาศสุดโต่งกำลังเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ สังคม และระบบนิเวศอย่างรวดเร็วและน่าตกใจ” รายงานระบุ