รีเซต

สธ.ยันยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอ ขอความร่วมมือใช้ตามแนวทางรักษา

สธ.ยันยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอ ขอความร่วมมือใช้ตามแนวทางรักษา
TNN ช่อง16
29 มีนาคม 2565 ( 11:54 )
69
สธ.ยันยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอ ขอความร่วมมือใช้ตามแนวทางรักษา

วันนี้ (29 มี.ค. 65) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ไม่เพียงพอ ว่า ยืนยันขณะนี้ประเทศไทยยังมียาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยมอบให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้จัดหาตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. 65 องค์การเภสัชกรรมได้ผลิตและจัดหายาฟาวิพิราเวียร์เข้ามารวม 128.1 ล้านเม็ด 

ทั้งนี้ เฉพาะช่วงวันที่ 1-28 มี.ค. 65 มีการผลิตและจัดหายาแล้ว 73.9 ล้านเม็ด ส่งกระจายยาให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ 72.52 ล้านเม็ด ข้อมูลถึงวันที่ 28 มี.ค. 65 คงเหลือยาทั่วประเทศ 22.87 ล้านเม็ด โดยพื้นที่ กทม. มียาคงเหลือมากที่สุด 5.12 ล้านเม็ด รองรับผู้ป่วยได้ 1.02 แสนราย ขณะที่จังหวัดอื่นๆ มียาคงเหลือเพียงพอรองรับผู้ป่วยเช่นกัน 

อย่างไรก็ดี ส่วนกลางมีการจัดหายา และกระจายยาให้แก่ทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ โดยช่วงวันที่ 29 มี.ค.-2 เม.ย. 65 จะมียาอีก 15 ล้านเม็ด วันที่ 3-9 เม.ย. 65 อีก 11.6 ล้านเม็ด และวันที่ 10-16 เม.ย. 65 จำนวน 20 ล้านเม็ด

นพ.ธงชัย กล่าวว่า ทุกจังหวัดได้รับการกระจายยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บางพื้นที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้การบริหารจัดการยาไม่คล่องตัว หากโรงพยาบาลใดพบแนวโน้มว่ายาฟาวิพิราเวียร์จะไม่พอใช้ สามารถแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อบริหารจัดการยาให้โรงพยาบาลมีใช้อย่างต่อเนื่องได้ 

สำหรับการใช้ยาจะเป็นไปตามแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ของกรมการแพทย์ ที่กำหนดโดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหลักการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล หากผู้ป่วยไม่มีอาการหรือไม่มีความเสี่ยงจะไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส โดยแพทย์อาจพิจารณาให้ยารักษาตามอาการหรือยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งจากการติดตามการรักษาผู้ป่วยในเขตสุขภาพที่ 4, 5, 6 รวม 24 จังหวัด พบว่า มีผู้ป่วยที่อยู่ในเกณฑ์ต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์เพียง 26% 

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังจัดหายารักษาอื่นๆ ได้แก่ ยาเรมดิซิเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพกซ์โลวิด เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับแพทย์พิจารณาในการรักษาผู้ป่วยให้เหมาะสมกับอาการ และปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยด้วย

ภาพจาก : AFP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง