วิจัยชี้ “ชีวิตคาร์บอนต่ำ” ช่วยลดโลกร้อนได้ถึง 40%

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นวิกฤติระดับโลก หลายคนอาจรู้สึกว่าเรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าจะจัดการได้ด้วยตนเอง แต่ผลการศึกษาล่าสุดจากทีมนักวิจัยนานาชาติชี้ให้เห็นว่า "การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ภายในบ้าน" อาจสร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อสิ่งแวดล้อมโลกได้อย่างคาดไม่ถึง
40% ของคาร์บอนทั่วโลก มาจากการใช้ชีวิตของเรา
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications ระบุว่า หากกลุ่มประชากร 23.7% ของโลกที่ปล่อยคาร์บอนในระดับสูงสุดหันมาใช้ชีวิตแบบคาร์บอนต่ำ ก็จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคครัวเรือนทั่วโลกได้ถึง 10.4 กิกะตัน หรือคิดเป็น 40.1% ของการปล่อยคาร์บอนที่เกิดจากการบริโภคภาคครัวเรือนใน 116 ประเทศที่ศึกษา
ประเทศที่มีศักยภาพในการลดมากที่สุดคือกลุ่มอเมริกาเหนือ ขณะที่บางประเทศในแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาราอย่างมอริเชียส นามิเบีย และชาด ก็แสดงศักยภาพในการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนได้อย่างน่าสนใจเช่นกัน
5 แนวทางชีวิตคาร์บอนต่ำที่ทุกคนทำได้
งานวิจัยเสนอ “21 ทางเลือกคาร์บอนต่ำ” ที่ประชาชนสามารถนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน โดย 5 แนวทางหลักที่ช่วยลดคาร์บอนได้มากที่สุด ได้แก่:
- ลดการพึ่งพาบริการเชิงพาณิชย์ เช่น ท่องเที่ยวหรู การใช้บริการต่างๆ อย่างเกินความจำเป็น (ลดได้ 10.9%)
- กินอาหารวีแกนหรืออาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ น้ำตาล และอาหารแปรรูป (ลดได้ 8.3%)
- ปรับปรุงบ้านให้อยู่ในมาตรฐานประหยัดพลังงาน เช่น ติดฉนวนกันความร้อน ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 (ลดได้ 6.0%)
- หันมาใช้ขนส่งสาธารณะ แทนการขับรถส่วนตัว (ลดได้ 3.6%)
- ซ่อมแซมและแบ่งปันเครื่องใช้ในบ้าน แทนการซื้อใหม่ (ลดได้ 3.0%)
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในด้านการเดินทางและการบริโภคบริการ มีศักยภาพในการลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 11.8% และ 10.2% ตามลำดับ
ดร.ยูหลี่ ซาน จากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ผู้เขียนบทความหลักของงานวิจัย กล่าวว่า "หากเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของครัวเรือนที่ปล่อยคาร์บอนสูงที่สุดในโลกได้ เราก็จะสามารถเข้าใกล้เป้าหมายการลดโลกร้อนในระดับโลกได้มากขึ้น" ขณะเดียวกัน นักวิจัยยังย้ำว่า การออกนโยบายควรเน้น "ความเป็นธรรม" โดยต้องคำนึงถึงกลุ่มเปราะบางที่ยังเผชิญกับปัญหาความยากจนด้านพลังงาน หรือไม่มีทางเลือกในการเข้าถึงทางเลือกคาร์บอนต่ำ
แม้งานวิจัยนี้จะอิงข้อมูลจากการใช้จ่ายของครัวเรือนที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง แต่สาระสำคัญที่ส่งถึงทุกคนคือ การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องเริ่มจากระดับนโยบายรัฐเสมอไป การเลือกว่าจะกินอะไร เดินทางอย่างไร หรือใช้ของอย่างไรในแต่ละวัน ล้วนเป็นพลังเงียบที่สามารถเปลี่ยนโลกได้จริง
ในยุคที่ภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรง การใช้ชีวิตอย่างมีสติและยั่งยืนในบ้านของเราเอง อาจเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาโลกให้หลุดพ้นจากวิกฤตนี้ได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
