แม่รุดขอโทษ ลูกคลั่ง "รัดคอ-กัดหู" โชเฟอร์แท็กซี่

วันนี้( 21 ต.ค.63) จากกรณีที่ นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ก่อเหตุใช้สายกระเป๋าสะพายรัดคอนายประสิทธิ์ อายุ 52 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ทะเบียน ทส 2401 กรุงเทพ โดยเหตุเกิดบนถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา จนทำให้รถแท็กซี่เสียหลักตกลงไปในคูน้ำข้างทาง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าระงับเหตุและควบคุมตัว น.ส.กนกวรรณ มาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก

ล่าสุด แม่ของนางสาวเอ สาวคลุ้มคลั่งได้เดินทางมายังโรงพัก สภ.บางบัวทอง เพื่อเข้าเยี่ยมลูกสาวและขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับนายประสิทธิ์  โชเฟอร์แท็กซี่แล้ว

โดยแม่ของ นางสาวเอ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับลูกสาวแล้วเมื่อเช้านี้ เขาบอกว่าสาเหตุที่ทำให้เขาอาละวาดใส่รถโชเฟอร์รถแท็กซี่นั้น เป็นเพราะเมื่อเขาเรียกรถแท็กซี่มารับให้ไปส่งที่ลำลูกกาแล้ว เขาก็นั่งหลับไป จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกที รถมาถึงที่ตรงเกิดเหตุซึ่งถนนมืดและเปลี่ยว ประกอบกับลูกสาวตนไม่คุ้นเคยกับเส้นดังกล่าว จึงคิดว่าถูกโชเฟอร์แท็กซี่พามากระทำมิดีมิร้าย ซึ่งอาละวาดด้วยการเอาสายกระเป๋าสะพายรัดคอโชเฟอร์แท็กซี่เพื่อหวังเอาตัวรอด

จากนั้นเกิดชุมนุมต่อสู้กันในรถลูกสาวตนกัดหูโชเฟอร์ โชเฟอร์ก็กัดแขนลูกสาวตน จนรถเสียหลักตกไปที่คูถนนข้างทาง ลูกสาวตนมีอาชีพเป็นหมอนวดแพทย์ไทย มีลูกสาวที่ต้องเลี้ยงดูอีกสองคน ซึ่งในแต่ละเดือนลูกสาวจะเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเป็นหลัก ทั้งค่ากิน ค่าเทอมนักเรียน ค่าใช้จ่ายต่างๆ จนกระทั่งมาเกิดโรคโควิด ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปนวดที่ร้านนวดในมาเลเซียได้ ต้องมารับจ้างนวดตามร้านนวดแผนไทยทั่วไปจึงเกิดความเครียดสะสมเพราะหาเงินได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ตนในฐานะคนเป็นแม่ก็อยากจะขอความเมตตาให้คนขับแท็กซี่ เห็นใจ และอภัยให้ลูกสาวตนด้วย หากเขาถูกจับติดคุกไป ตนกับหลานอีกสองคนคงลำบาก ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นก็พร้อมยินดีที่จะจ่ายให้ แต่ถ้าหากเรียกเยอะคงไม่มีจ่ายให้ไหว

  ด้านนายประสิทธิ์ โชเฟอร์แท็กซี่ ซึ่งเดินทางมาที่โรงพักด้วย กล่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกรถแท็กซี่ตนให้พา นางสาวเอ ไปส่งที่ลำลูกกา คลอง 2 จ.ปทุมธานี ซึ่งตนก็รับโดยสารขึ้นมาที่หน้าปั้มน้ำมันแถววัดสวนแก้ว เมื่อขับมาได้สักพักตนกำลังจะหันไปถามว่าจะให้ตนขับไปเส้นทางไหน แต่ นางสาวเอ ก็นั่งหลับไปแล้ว ตนจึงเลือกขับมาทางอำเภอบางบัวทอง จนกระทั่งขับมาถึงที่เกิดเหตุ นางสาวเอ ก็ตื่นขึ้นมาแล้วตะโกนใส่ตนว่า " มึ..ทำของก..เสื่อมหมดแล้ว มึ..ตายซะ" จากนั้นเอาสายกระเป๋าสะพายมาคล้องรัดคอตนจนหายใจไม่ออก พร้อมกับตรงเข้ากัดที่ใบหูตนอย่างแรง ด้วยความเจ็บและหายใจไม่ออก ตนจึงกัดเข้าที่มือ นางสาวเอ เพื่อให้เขาปล่อยมือได้สำเร็จ รถแท็กซี่ก็เกิดเสียหลักพุ่งลงคูน้ำข้างทาง หน้ารถแท็กซี่ทิ่มจมลงไปในคูน้ำ 

ตนจึงรีบเปิดประตูหนีออกมาพร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือ ตนไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงคลุ้มคลั่งขึ้นมา ทั้งๆที่ตนไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย ไม่แน่ใจว่าอาการที่เขาเป็นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ จะเป็นโรคเครียดหรือยาเสพติด เพราะแม้กระทั่งตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง เขายังให้การวกวนไม่รู้เรื่องเลย ส่วนตัวแล้วตนไม่ติดใจเอาความ อยากให้เขารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลกับค่าเสียโอกาสที่จะต้องขับรถแท็กซี่ทำมาหากินเท่านั้น ส่วนค่าซ่อมรถแท็กซี่ที่เกิดความเสียหายนั้นทางเถ้าแก่เจ้าของอู่คงให้รับผิดชอบคจ่ายค่าซ่อมให้ตามราคาที่ประเมินตวามเสียหายไว้

เกาะติดข่าวที่นี่