ALIA "แท็กซี่บินได้" พลังไฟฟ้าจากสหรัฐฯ ทดสอบบินสำเร็จที่นิวยอร์ก ลุ้นเปิดบริการจริงปี 2027

เบตา เทคโนโลยี (Beta Technologies) ประสบความสำเร็จในการนำเอเลีย (ALIA) แท็กซี่บินได้พลังงานไฟฟ้า ลงจอดและรับผู้โดยสารจากสนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ. เคเนดี (John F. Kennedy International Airport) พร้อมเคลมว่ามีต้นทุนการบินต่ำไม่ถึง 300 บาท ต่อเที่ยวบิน และอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้บริการจริงปี 2027 นี้
ข้อมูลแท็กซี่บินได้ ALIA จากสหรัฐฯ
เอเลีย (ALIA) เป็นอากาศยานพลังงานไฟฟ้าขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) ทำการบินได้สูงสุด 463 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว และมีระยะเวลาชาร์จไม่เกิน 1 ชั่วโมง ใช้เครื่องยนต์ยกตัว (Lift Motor) 4 ตัว และเครื่องยนต์สำหรับบินอีก 1 ตัว ทำความเร็วสูงสุด 153 นอต หรือ 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภายในห้องโดยสารสามารถโดยสารได้ 5 ที่นั่ง และนักบินอีก 1 ตำแหน่ง เน้นการตกแต่งให้มีความทันสมัย เบาะโดยสารคล้ายกับรถยนต์ พร้อมช่องเก็บสัมภาระขนาดเล็ก และยังมีช่องสำหรับใส่สัมภาระเพิ่มเติมที่ด้านท้ายเครื่อง
การทดสอบแท็กซี่บินได้ ALIA จากสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ALIA ได้ทดสอบพาผู้โดยสาร 5 คน จากย่าน อีสต์ แฮมป์ตัน (East Hampton) ซึ่งเป็นพื้นที่รีสอร์ทและแหล่งพักผ่อนด้านด้านปลายตะวันออกของ ลอง ไอส์แลนด์ (Long Island) เกาะสำคัญในรัฐนิวยอร์ก ไปยังสนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ. เคเนดี ที่อยู่ด้านปลายตะวันตกของลอง ไอส์แลนด์
ในเส้นทางนี้ หากใช้รถยนต์โดยสารในเส้นทางเดียวกันนี้ จะต้องใช้ระยะทางไม่น้อยกว่า 150 กิโลเมตร ด้วยระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 40 นาที แต่ ALIA สามารถบินไปส่งได้สำเร็จ ด้วยระยะเวลา 35 นาที เท่านั้น และใช้ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร โดยมีต้นทุนการบินที่ 8 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 260 บาท
Beta Technologies ก่อตั้งในปี 2017 และระดมทุนรวมกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 32,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนา ALIA ขึ้นมา และปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจตลาดสำหรับ ALIA ไปพร้อมกับยื่นเรื่องขออนุญาตทำการบินต่อองค์การบริหารการบินแห่งชาติ หรือ FAA (Federal Aviation Administration) ซึ่งจะใช้เวลาระหว่าง 18-20 เดือน หรือประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2027 นี้ ก่อนจะเปิดให้บริการต่อไป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
