"แกร็บ" จดทะเบียนคนขับผ่านแอปฯ ปลดล็อคบริการถูกกฎหมาย

แกร็บ ประเทศไทย ประกาศเร่งเครื่องเต็มกำลัง ผลักดันคนขับที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันเข้าสู่ระบบการจดทะเบียนรถรับจ้างสาธารณะตามกฎหมาย โดยร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้บริการเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัยตามระเบียบปฏิบัติมาตรการดังกล่าวครอบคลุมทั้งการส่งเสริมให้คนขับทำใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ และการนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไปจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยแกร็บได้จัดทำสิทธิประโยชน์และอินเซนทีฟมูลค่าสูงสุดถึง 7,000 บาท เพื่อจูงใจให้คนขับเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งยังประสานกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอเปิดบริการทำใบขับขี่และจดทะเบียนนอกเวลาราชการ พร้อมส่งทีมงานไปประจำในสำนักงานขนส่ง 5 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี และขอนแก่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านเอกสารและขั้นตอนต่าง ๆ
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมคนขับจดทะเบียนรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปฯ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้ผู้ให้บริการ GrabCar และ GrabBike เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกและประกาศของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ แม้ว่าคนขับหลายหมื่นคนทั่วประเทศได้ดำเนินการทำใบอนุญาตขับขี่สาธารณะแล้ว แต่ขั้นตอนการจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะเงื่อนไขด้านความเป็นเจ้าของรถ ที่กำหนดว่าผู้ขอจดทะเบียนต้องเป็นเจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์โดยตรง ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำหรับคนขับที่ยังติดไฟแนนซ์ หรือเช่ารถจากบริษัทเพื่อใช้ให้บริการ ข้อจำกัดนี้ทำให้ผู้ขับจำนวนมากไม่สามารถจดทะเบียนได้ แม้ต้องการเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องก็ตาม
จากเสียงสะท้อนของคนขับ หลายฝ่ายจึงเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขดังกล่าว รวมถึงขยายระยะเวลาในการจดทะเบียน เพื่อให้ผู้ขับสามารถมีรายได้ที่ถูกกฎหมายและไม่ต้องกังวลต่อการให้บริการ ขณะเดียวกันยังเสนอให้ภาครัฐพิจารณาพัฒนากระบวนการจดทะเบียนในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มความสะดวกและลดความซับซ้อน
กรณีศึกษาของประเทศมาเลเซียเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ เนื่องจากกระทรวงคมนาคมได้พัฒนาระบบจดทะเบียนรถรับจ้างที่ดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันในทุกขั้นตอน โดยใช้ระบบออนไลน์แทนการบันทึกในสมุดคู่มือรถยนต์แบบเดิม รวมถึงปรับกระบวนการให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น การซื้อขายรถมือสองที่พิจารณาตามสภาพจริงและใบรับประกันการตรวจสภาพรถ ซึ่งทำให้คนขับมีความมั่นใจในการนำรถมาจดทะเบียนมากขึ้น
แกร็บ ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ หากประเทศไทยนำระบบลักษณะนี้มาใช้ จะช่วยปลดล็อคข้อจำกัดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเปิดโอกาสให้ผู้ขับจำนวนมากสามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญความท้าทาย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
