SAWADสินเชื่อQ2โตต่อ ดีมานด์พุ่งคุมNPLอยู่หมัด

SAWAD มั่นใจผลงานโค้งสองทั้งพอร์ตสินเชื่อ – กำไรโตต่อเนื่อง พร้อมนำเกณฑ์ควบคุม – แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งระบบของธปท.มาปรับใช้ ย้ำสามารถรักษาการเติบโตของกำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ด้านนักวิเคราะห์คาดกำไรไตรมาส 2/2566 เร่งตัวแตะ 1.3 พันล้านบาท โต 21% แนะซื้อ เป้า 64 บาท

นางสาวธิดา  แก้วบุตตา  ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ รวมถึงความสามารถในการบริโภคภายในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับแนวทางการเก็บสถิติการคำนวณหนี้ครัวเรือนให้ครอบคลุม-ชัดเจนมากขึ้น เพื่อเตรียมออกแนวทางแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน

“บริษัทติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้อง โดย ณ ปัจจุบันบริษัทยังคงมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องในระยะ 2 ปีข้างหน้า จึงยังคงกลยุทธ์เชิงรุกขยายพอร์ตสินเชื่อทุกประเภทโดยนำเครดิตสกอร์ริ่งเข้ามาประเมินศักยภาพการผ่อนชำระของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งที่มีเงินเดือน และไม่มีเงินเดือน เพื่อรักษาคุณภาพสินเชื่อ และควบคุม NPL ให้อยู่ในกรอบไม่เกิน 3-4%”

*สินเชื่อขยายตัว

ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทยังคงใช้เกณฑ์การพิจารณาปล่อยสินเชื่อตามฐานรายได้ และศักยภาพการชำระคืนสินเชื่อของลูกค้าเป้าหมายในทุนกลุ่มธุรกิจทั้งสินเชื่อจำนำ, สินเชื่อเช่าซื้อ, และสินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ โดยปูพรมทุกช่องทางการตลาดทั้ง การตลาดออนไลน์, การขยายสาขา, Direct Sales, เป็นพันธมิตรกับตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์เครื่องใช้ไฟฟ้า (Dealer) ทั่วประเทศ เพื่อขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมถึงระดับอำเภอ ควบคู่กับการปรับแนวทางการติดตามทวงถามให้สอดคล้องกับแนวทางกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของกำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ด้านนายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ SCAP บริษัทย่อยของ SAWAD กล่าวว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแลของภาครัฐบาล เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของกำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้ง 1.การปรับลดต้นทุนการดำเนินงานลง  2.ควบคุมสัดส่วน NPL ให้อยู่ในระดับต่ำ 3.ให้มีการวางเงินดาวน์เฉลี่ยระหว่าง 10-20% ของราคารถ โดยจะพิจารณาเงินดาวน์จาก CC รถแต่ละรุ่น และความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย โดยบริษัทจะยังคงร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทุกกลุ่ม เพื่อขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

*ไตรมาส 2/66 โตต่อ

เบื้องต้นคาดการณ์ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทงวดไตรมาส 2/2566 ยังมีแนวโน้มเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2566 (QoQ) หนุนจากความต้องการสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูก และการลงทุนประกอบธุรกิจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว – บริการ และการบริโภคฐานรากที่ยังขยายตัวได้แข็งแกร่ง

“พอร์ตสินเชื่อ และความสามารถในการเก็บเงินสดของกลุ่มบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนการพิจารณาวางเงินสินเชื่อ บริษัทสามารถปรับเครดิตสกอร์ริ่งให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจแต่ละช่วงเวลา เพื่อสแกนหาลูกค้าที่มีคุณภาพในการผ่อนชำระ สดปัญหาหนี้เสียได้อย่างมีนัยสำคัญ”

*แนะซื้อเป้า 64 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด  (มหาชน) ระบุว่า คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/2566 ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แม้คาดว่าต้นทุนดอกเบี้ยและการตั้งสำรองอาจจะเพิ่มสูงขึ้น แต่รายได้ดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าตามสินเชื่อที่เติบโต ทำให้กำไรยังเพิ่มสูงขึ้นได้ ส่วนสินเชื่อของ SAWAD จะเพิ่มขึ้นต่อ

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อาจจะเพิ่มสูงขึ้นและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงิน รวมไปถึงผลตอบแทนสินเชื่อที่อาจจะลดลงจากการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อที่ผลตอบแทนต่ำกว่า รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของ NPL คาดทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงมาเหลือ 14.2% จากไตรมาสก่อนที่มีอยู่ 14.5%

เบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรปี 2566 ของ SAWAD ไว้ที่ 5.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9%YoY และอาจจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีก จากการเข้าซื้อหุ้น บริษัทเงินสดทันใจคืนจาก ธนาคารออมสิน ซึ่งจะทำให้สินเชื่อของ SAWADเติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงการรับรู้กำไรของบริษัทเงินสดทันใจเข้ามาหลังการเข้าซื้อแล้วเสร็จ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 64 บาท