DPAINTเคาะIPO7.50บ. ลั่นระฆังเทรด28ต.ค.นี้
ทันหุ้น - DPAINT เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 7.50 บาท คาดได้เงินจากการระดมทุนราว 373.16 ล้านบาท กำหนดเปิดจองซื้อ 19 - 21 ต.ค.นี้ พร้อมเทรดในตลาด mai วันที่ 28 ต.ค. 64 ด้านที่ปรึกษาทางการเงิน ย้ำความเชื่อมั่นพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ผลงานโดดเด่น
นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 53.25 ล้านหุ้น ที่ราคา 7.50 บาทต่อหุ้น เปิดให้จองซื้อในวันที่ 19 - 21 ตุลาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ในชื่อหลักทรัพย์ว่า "DPAINT"
เคาะราคา 7.50 บ.
สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 7.50 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 32.80 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2563 - 30 มิ.ย. 2564)
โดยถือว่ามีส่วนลดพอสมควรจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเฉลี่ยของกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจเหมือนหรือคล้ายคลึงกันทั้งในและต่างประเทศ พร้อมมองว่า DPAINT มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น เป็นหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทาอาคารรายที่ 3 ในตลาดทุน ที่โดดเด่นทางด้านนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ เป็นโอกาสในการสร้างรายได้และกำไรที่จะเติบโตต่อเนื่องในอนาคต
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT เปิดเผยว่า DPAINT ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจสีทาอาคารที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีคุณภาพ และตรงความต้องการในแต่ละกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เตรียมเดินหน้าก้าวต่อไปอย่างมั่นคงสู่การเป็นผู้นำตลาดในระดับ Top 5 ของอุตสาหกรรมสีทาอาคารของไทยในระยะ 5-10 ปีจากนี้ และสร้างผลประกอบการที่ดีในระยะยาว
**โอกาสโตก้าวกระโดด
ทั้งนี้การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นการปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ ทั้งในด้านแหล่งเงินทุน การผลิต และแผนการขยายตลาดเชิงรุก ควบคู่การบริหารจัดการด้วยมาตรฐานสากล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ในอนาคต
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวนประมาณ 373.16 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) จะนำไปใช้ลงทุนในการปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ จำนวนประมาณ 150 ล้านบาท ระยะเวลาการใช้เงินภายในปี 2568 เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิต และบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ