เปิด 3 แนวทาง แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
3 เกณฑ์ที่ออกมาจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทเมื่อวานนี้ จะมีรายละเอียดสำคัญอย่างไรบ้าง
ที่ประชุมอนุกรรมการเมื่อวานนี้ ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่าง หลายประเด็น จึงต้องนำผลสรุปเบื้องต้นเสนอที่ประชุมชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อสรุปอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยเรื่องสำคัญที่ยังเห็นต่างกัน ก็คือเงื่อนไขใหม่ของการแจกเงิน ที่จะลดยอดการแจกเงิน และทำให้ใช้งบประมาณน้อยลง
โดยมีข้อเสนอแนะในการกำหนดกลุ่มผู้ที่จะได้รับสิทธิ ซึ่งต้องการให้ตัดกลุ่มคนรวยออก โดยมี 3 แนวทาง
1. จ่ายเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- จำนวน 15-16 ล้านคน
- ใช้งบประมาณ 1.6 แสนล้านบาท
2. พิจารณาให้ตัดกลุ่มคนที่มีความพร้อมทางสังคม
- มีรายได้เดือนละ 25,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 1 แสนบาท
- จะเหลือผู้ที่ได้รับสิทธิ 43 ล้านคน
- ใช้งบประมาณ 4.3 แสนล้านบาท
3. พิจารณาตัดผู้ที่มีรายได้สูง
- เกินเดือนละ 50,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 5 แสนบาท
- เหลือผู้ได้รับสิทธิ 49 ล้านคน
- ใช้งบประมาณ 4.9 แสนล้านบาท
ก็คือ จะปรับจำนวนผู้ได้รับเงิน น้อยลง
จากเดิม 54-56 ล้านคน วงเงิน 540,000-560,000 ล้านบาท
เงื่อนไขที่คงเดิม
1. อายุผู้ที่ได้รับสิทธิ 16 ปีขึ้นไป
2. รัศมีการใช้จ่าย มีข้อสรุปเปลี่ยนเป็นระดับอำเภอ จากเดิมไม่เกิน 4 กิโลเมตร ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
3. ให้ธนาคารกรุงไทย เป็นผู้จัดทำระบบแพลตฟอร์มแจกเงิน
4. คนได้รับสิทธิรายแรกใช้จ่ายภายใน 6 เดือน
5. ร้านค้าสามารถทยอยขึ้นเงินภายใน 4 ปี
6. โดยร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต้องร้านค้าได้ขึ้นทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีบุคคลธรรมดา
แหล่งที่มาของเงิน
คณะอนุกรรมการยังมีความเห็นหลากหลาย
แหล่งที่ 1 "ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน"
- ตั้งงบประมาณผูกผัน 4 ปี ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ
- ต้องเริ่มจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
อาจทำให้โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ล่าช้า ออกไป หรือสามารถใช้จ่ายได้ในราวเดือน เม.ย.-พ.ค.67
แหล่งที่ 2 "พ.ร.ก.กู้เงิน"
- เป็นทางเลือกสุดท้าย
แหล่งที่มาของเงินเดิม
- เดิมมีแนวคิดที่จะนำเงินของธนาคารออมสินมาใช้
- แต่ติดข้อกฎหมายเรื่องวัตถุประสงค์ของธนาคารออมสินไม่สามารถดำเนินการได้
ท้ายที่สุดแล้ว โครงการนี้ยังต้องรอผลการประชุมกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำมาตลอดว่า จะพยายามทำให้เร็วที่สุด โดยยืนยัน เรื่องการจ่ายเงินว่า จะต้องจ่ายรวดเดียว 10,000 บาท เพราะอยากให้กระตุ้นเศรษฐกิจทีเดียว ให้เป็นเม็ดใหญ่ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน