สึนามิผู้ติดเชื้อโควิด คืออะไร? หลังประชากรโลกติดเชื้อเฉียดล้านต่อวัน
สำนักข่าว Reuters เปิดเผยข้อมูลพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง ขณะที่ไวรัสสายพันธุ์ “โอมิครอน” ระบาดอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ และรัฐบาลของหลายประเทศ ก็พยายามที่จะใช้วิธีการควบคุมการระบาดโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วเสียหาย
WHO รายงานว่า ในสัปดาห์ ระหว่าง 20-26 ธันวาคมที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 11% โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน 7 วัน เกือบ 4.99 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 7.12 แสนคน
โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด ส่วนสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 39% และ แอฟริการาว 7% ซึ่งตัวเลขเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา
---เตือนสึนามิโควิด---
แม้ว่าผลการศึกษาพบว่า ไวรัสโอมิครอนอันตรายน้อยกว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์ก่อนหน้า แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงในระดับสูง เนื่องจากการมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จะทำให้โรงพยาบาลในหลายประเทศอาจต้องรับมือกับจำนวนผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
ดร.ทีดรอส ระบุว่า อาจเป็นแรงกดดันและสร้างความอ่อนล้าอย่างที่สุดให้กับบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ จนบางพื้นที่อาจล่มสลายได้ ในขณะที่ภาคธุรกิจเอง อาจต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อดำเนินกิจการต่อไป เพราะพนักงานต้องกักตัว
ด้านทีดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงข่าวว่า ขณะนี้ ไวรัสทั้งสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน ต่างทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสูงทำสถิติใหม่ ผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และเสียชีวิตมากขึ้น เขากังวลอย่างมากว่า การระบาดพร้อมกันของไวรัสเดลตาและโอมิครอน ซึ่งมีการระบาดง่ายและรวดเร็ว กำลังก่อให้เกิด “สึนามิ” ที่อันตรายของผู้ติดเชื้อโควิด
---เกือบ 100 ประเทศ ยังฉีดวัคซีนไม่ได้ตามเป้า---
WHO รายงานว่า 92 ประเทศ จากชาติสมาชิก 194 ประเทศ ยังคงไม่สามารถทำตามเป้าหมายการฉีดวัคซีน 40% ของประชากรภายในสิ้นปีนี้ได้
ดร.ทีดรอสได้เรียกร้องให้ทุกคน "ร่วมกันตั้งปณิธานปีใหม่" ในการฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ภายในต้นเดือนกรกฎาคม เพื่อที่การระบาดจะได้ไม่รุนแรงจนเกินไป
ไม่เพียงเท่านั้น ดร.ทีดรอส ยังคงกล่าวโจมตีกลุ่มประเทศร่ำรวย กล่าวหาว่า ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียกันในเรื่องวัคซีน และส่งผลให้ประตูหลังบ้านเปิดออกเพื่อต้อนรับไวรัส (หมายถึงการที่ไม่ช่วยประเทศยากจน ทำให้ไวรัสระบาดได้อีก)
อีกทั้ง ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่ถูกส่งต่อกันอย่างมากตลอดปี 2021 ที่ผ่านมา ก็ยิ่งนับว่าเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการยับยั้งโรคระบาด
"โดยเฉพาะการระบาดรอบนี้ในยุโรป และอีกหลายประเทศ พบว่าข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกำลังขับเคลื่อนให้กลุ่มคนที่ต่อต้านวัคซีนอยู่แล้วยิ่งต่อต้านมากขึ้นอีก และกลายเป็นปัญหาที่ทำให้กลุ่มคนไม่ได้รับวัคซีนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอีก"
ดร.ทีดรอสระบุว่า ปี 2020 - มีคนเสียชีวิตจากโควิด-19 ราว 1.8 ล้านคน และเพิ่มอีก 3.5 ล้านคนในปี 2021 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ทั้งที่ตัวเลขควรลดน้อยลงเนื่องจากเรามีวัคซีนแล้ว
"แต่หากมองในแง่ดี ปี 2021 แม้ว่าเราจะยังไม่สามารถยุติการระบาดลงได้ แต่เรายังวางผังเส้นทางสู่ความมั่นคงด้านสุขภาพที่เข้มแข็งได้มากยิ่งขึ้น" ดร.ทีดรอส กล่าว
---หลายประเทศยุโรปเจอผู้ติดเชื้อทำสถิติใหม่---
ถ้อยแถลงของทีดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส มีขึ้นขณะที่สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วยุโรป รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ โดยฝรั่งเศส นายโอลิวิเย เวรอง รัฐมนตรีสาธารณสุข แถลงต่อสมาชิกรัฐสภาว่า ฝรั่งเศสต้องพบกับสถิติที่น่าตกใจ ผู้ติดเชื้อโควิดในช่วง 24 ชั่วโมงสูงสุดทั้งในระดับประเทศและระดับยุโรป อยู่ที่ 208,000 ราย สูงสุดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
อิตาลี, สเปน, เดนมาร์ก, โปรตุเกส, สหราชอาณาจัก, กรีซ, ไซปรัส, มอลตา และออสเตรเลีย ต่างก็รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทำสถิติสูงสุดด้วย
ขณะที่โปแลนด์ รายงานมีผู้เสียชีวิตจากโควิด 794 รายในวันพุธ (29 ธันวาคม) สูงสุดในการระบาดรอบ 4 โดยมากกว่า 3 ใน 4 ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เฉพาะในอังกฤษติดเชื้อ 183,037 ราย ถือเป็นสถิติใหม่ และสูงว่าตัวเลขในวันก่อนหน้ากว่า 50,000 ราย และไอร์แลนด์ ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน มากกว่า 16,000 รายในวันพุธ
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ แถลงว่า แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น แต่เขาจะไม่ใช้มาตรการคุมเข้มใหม่ในปีนี้ เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโอมิครอน ซึ่งขณะนี้ระบาดไปทั่วประเทศ ร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด
ส่วนสหรัฐฯ รายงานผู้ติดเชื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 265,427 รายต่อวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ และรอยเตอร์รายงานว่า เฉพาะในวันพุธวันเดียว สหรัฐฯติดเชื้อรายใหม่ 258,312 ราย สูงกว่าสถิติเดิม ซึ่งอยู่ที่ 250,141 รายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
—————
แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล
ภาพ: Andriy Onufriyenko