วิจารณ์สนั่น ชาย #กักตัวทิพย์ โควิด กทม. แถมกินข้าวที่เดียวกับดีเจมะตูม

แห่วิจารณ์ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด กทม. รายที่ 598 #กักตัวทิพย์ พบระหว่างกักตัวมีการออกไปกินข้าวกับเพื่อน ไปซื้อของซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่ได้กักตัวอย่างจริงจังตามที่กระทรวงสาธารสุขกำหนด

จากกรณี กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด โดยมีรายที่ 598 เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 พบว่าชายไม่ได้ประกอบอาชีพช่วงระหว่างวันที่ 1- 4 มกราคม เดินทางไปเที่ยวร้านวอร์มอัพ จ.เชียงใหม่ มีการตรวจหาเชื้อโควิดที่เชียงใหม่ทราบผลว่าไม่ติด

จากนั้นบินกลับกรุงเทพฯ กักตัวอยู่ที่พักแถวบางกะปิและออกไปซื้อของในหลายพื้นที่ ตามไทม์ไลน์

โดย เพจ อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก ซึ่งเป็นเพจบล็อกเกอร์รีวิวภาพยนตร์ชื่อดัง มีผู้ติดตามกว่า 1.1ล้านคน ได้ตั้งข้อสงสัยถึงไทม์ไลน์ข้างต้นว่า “เป็นการกักตัวทิพย์”

ชายคนดังกล่าวไปยังพื้นที่เสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิด ต้องกักตัว 14 วัน แต่กักตัวแล้วยังมีการออกไปข้างนอก ซึ่งตามไทม์ไลน์ได้ไปสถานที่เดียวกับดีเจชื่อดังติดเชื้อโควิดก่อนหน้าอยู่ด้วย

ซึ่งเพจดังกล่าวระบุด้วยว่า “เป็นการกักตัวที่แปลว่าออกไปข้างนอกได้อยู่?” ท่ามกลางชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีดังกล่าว #กักตัวทิพย์ จำนวนมาก อาทิ “กักตัวแบบเว้นระยะกัก” , “กักตัวแบบ ผ่อนส่ง” , “กักตัวส้น.....ไรวะ , “กักตัวที่แปลว่าไปข้างนอกได้” , “กักอะไร ออกทุกวันที่กักเลยนะหล่อน” เป็นต้น

ขณะที่มีคนคอมเมนต์สงสัยว่า “อยากรู้ว่าทำไมผลตรวจไม่เจอโควิด แล้วถึงต้องกักตัวค่ะ คือเป็นเราผลไม่เจอโควิด ก็คงไม่ได้ระวังอะไร เพียงแต่เวลาออกไปข้างนอกก้สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆเอา แสดงว่าเขาต้องติดหลังจากวันที่ตรวจรึเปล่า ว่าแต่ติดจากที่ไหน และใครนั่นแหละ ประเด็น”

โดยก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และเพจอวยไส้แตกก็คอมเมนต์อธิบาย อาทิ “ถ้ามาจากสถานที่เสี่ยงแล้วตรวจไม่เจอโควิดก็ต้องกักตัว 14 วันครับ อย่างคุณหมอทวีศิลป์ตามนี้แกก็กักตัวอยู่” “น่าจะเพราะไปสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้ามาก่อนน่ะครับ เลยต้องไปตรวจ ถึงตรวจไม่เจอแต่ก็ต้องกักตัวครับ เพราะบางทีการตรวจไม่เจอก็คืออาจจะติดแต่ปริมาณเชื้อกำลังฟักตัว viral load ยังไม่มากพอที่จะตรวจเจอ ณ ตอนนั้นน่ะครับ” , “เป็นกลุ่มเสี่ยงเพราะไป ผับวอร์มอัพ ที่ติดกันหลายร้อยคน แต่ไปตรวจหลังไปผับแค่วันเดียว อาการยังไม่ออก เจ้าหน้าที่แนะนำให้กักตัว แต่ก็นะ” เป็นต้น