รีเซต

อ.ยิ่งศักดิ์ เผยผลตรวจรอบ 2 ไม่พบเชื้อ เผยกระทบหนัก พ้อสังคมบูลลี่ แต่ไม่โทษใคร

อ.ยิ่งศักดิ์ เผยผลตรวจรอบ 2 ไม่พบเชื้อ เผยกระทบหนัก พ้อสังคมบูลลี่ แต่ไม่โทษใคร
มติชน
28 มกราคม 2564 ( 15:57 )
134
อ.ยิ่งศักดิ์ เผยผลตรวจรอบ 2 ไม่พบเชื้อ เผยกระทบหนัก พ้อสังคมบูลลี่ แต่ไม่โทษใคร

เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบ จากการติดเชื้อโควิด 19 ของ ดีเจมะตูม – เตชินท์ พลอยเพชร หลังร่วมงานในรายการทีวีแห่งหนึ่ง จนต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19 และกักตัว 14 วัน โดย ล่าสุด อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก อัพเดทอาการ ว่าได้ตรวจหาเชื้อแล้ว 2 ครั้งไม่พบ และพูดถึงผลกระทบกับงานต่างๆ

 

อ.ยิ่งศักดิ์ กล่าวว่า ไปออกรายการ ที่รายการในช่องหนึ่ง เป็นที่โล่ง แดดส่อง ยังบ่นเลยว่า ร้อนจะตาย ก็ขอบคุณที่เลือกโลเกชั่นดี หากเป็นแบบมีแอร์ ในสตูดิโอ ก็คงแย่ ก็ไปตรวจ เพราะไปทำงานกับผู้ใหญ่หลายท่าน เขาก็ใจดี ได้ตรวจ ตอนนี้ก็ผลตรวจ 2 รอบ เป็นลบ ตอนนี้งานอะไรก็ไม่กล้าไปรับ ไม่กล้าไปไหนอีก

 

“สิ่งที่อาจารย์ได้รับ ทันที ที่มีข่าว คุณมะตูม เย็นนั้น ตกอก ตกใจไปหมด งานแคนเซิลเป็นว่าเล่น ก็ไม่เป็นไร ไม่แคนเซิลก็ต้องหยุดตัวเอง ก็ต้องรีบตรวจ เพราะเราก็มีครอบครัว มีพนักงานอีก 50 กว่าคน ไม่ต้องปิดกิจการหรอ แม่อายุ 90 ปี แม่ไปรพ. ก็ต้องไปตรวจ ทั้งๆ ที่ ฉันยังไม่ได้เป็นโควิดเลย แม่ก็ตกอกตกใจ เพราะต้องโดนกักตัว แล้วไม่บอกเขา โรงพยาบาลก็ดราม่า ไม่กล้าฟอกไต ห้องที่แม่ฟอกตัว นี่ก็เข้าใจว่าเป็นวิธีการโรงพยาบาล ทุกคนต้องรักษาความปลอดภัย ไม่ว่า แต่วิธีการอะ”

 

“โรงพยาบาล ใครจะป่วย จะตาย ก็มีสิทธิเข้าโรงพยาบาล ระบบต้องมีความสามารถที่จะรับได้ และมีความสามารถที่อธิบาย ว่าใครเข้ามา ควรได้รับรองความปลอดภัย เยียวยา ไม่ใช่ไปกลัวคนอื่นดราม่า และทำให้คนไข้คนหนึ่งเสียความรู้สึก”

 

 

ไม่กล้าไปไหน กลัวเขาเจ๊ง

อ.ยิ่งศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ไม่กล้าไปตลาด ทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นโควิด รู้ไหมว่า ไม่กล้าไปซื้อกับข้าวร้านไหนเลย กลัวว่าไปซื้อแล้ว คนจะกลัว ไม่กล้า ฉันอยากด่าเลยว่า ฉันยังไม่ได้เป็น ไม่ได้โมโห แต่ฉันยังปกติ แต่อยากให้ทุกคน หยุดดราม่าได้แล้ว ไม่อยากพูดหยาบเพราะเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว ทำความเข้าใจกับโรคโควิดใหม่นะ

“โควิด มาเพื่อทำให้มนุษย์มีวินัย ควรจัดการดูแล รักษาตัวเอง ไม่ใช่โควิด มาทำให้จับผิดคนอื่น ด่าทอ คนเป็นโควิด รังเกียจ เดียดฉันท์ สร้างดราม่าในสังคมไทย ดูแลตัวเองค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมมีการเข้าใจกันแปลกๆ”

“ใครเป็นโควิด มายืนอยู่ตรงหน้า ถ้าใส่แมสก์ โอกาสเป็นน้อยมาก ไม่ได้กินอาหารกับเขา กอดรัดฟัดเหวี่ยงเขา ถ้าห่างกัน 1 -2 เมตร เว้นระยะห่างทางสังคม ปลอดภัย ไม่ได้ติดกันง่ายๆ ไม่ใช่คนเดินผ่านมาก็เป็น อยู่ในจังหวัด 1 คน แล้วต้องเป็น ประสาท วิธีการที่คุณกำลังประสาทในสมอง ยิ่งทำให้คนในสังคมปั่นป่วน”

“ห้ามไม่ได้หรอก ใครจะเป็นโควิด ไม่มีใครอยากเป็นหรอก โควิด ถ้าบังเอิญติดมา ควรทำความเข้าใจและให้กำลังใจคนที่เป็น อย่างฉัน ทำงาน ระมัดระวังสุดตัว โลกใบนี้มันก็แค่นี้ เราดูแลตัวเอง คนอื่นไม่ดูแลตัวเอง จะให้ทำยังไง บางคนเกิดมา พ่อแม่เขาสอนแค่นั้น เขามีความรับผิดชอบต่อสังคมแค่นั้น จะไปว่าอะไร เราก็ต้องดูแลตัวเอง เราแก้ไขตัวเองไมได้ ก็แก้ไขตัวเอง ฉันเองก็ต้องดูแลตัวเอง เดี๋ยวก็ไปตรวจอีก”

 

“ร้านอาหารก็ไม่กล้าไปซื้อ เพราะกลัวร้านเขาเจ๊ง”

 

หยุดขุดคุ้ย และดูแลตัวเอง

อ.ยิ่งศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า มีคนที่ได้รับผลกระทบอีกมาก สำหรับฉันไม่รู้สึกหรอก มันปกติ ฉันเป็นคนมีความเข้าใจ แต่คนบางคนเขาได้รับผลกระทบ คนที่อยู่ไกลและใกล้จากตัว ได้รับผลกระทบหมดเลย

 

“วันนี้ก็เลยมีคำถามที่อยากถามกับสังคม ว่าถ้าไม่ระมัดระวัง ไม่ดูแลตัวเองและไม่มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง มันทำให้สังคมเดือดร้อน มีสมองไหม คิดเป็นหรือเปล่า ถ้าคิดเป็นก็เปิดกระโหลกตัวเอง และคิด ว่าจะทำอย่างไรให้ห่างไกลจากโลกโควิด ถ้าคุณเป็นแล้วไม่เดือดร้อน จะกะโหลกหนาปัญญาทึบขนาดไหนก็เรื่องของคุณ แต่คนที่อยู่รอบข้างคุณเดือดร้อนนะ”

และยังว่า ฉันตั้งใจทำงานมาก ดูแลรักษาตัวเองดีมาก แต่พอคนที่ไปเกี่ยวข้องเขาเป็น ฉันก็ถือเป็นคนใกล้ชิดลำดับถัดไป และฉันต้องไปทำงานกับผู้หลักผู้ใหญ่ ทุกคนต้องหยุดงานหมด งานภาพรวมระดับประเทศเสียหายหมด

 

“ฉันไม่โกรธ ว่าใครเอาโรคมาติดฉัน ว่าไปติดโรคไหน เจตนาหรือไม่ นิสัยไม่ดีขนาดไหน ไม่ฟังใครขนาดไหน มานั่งพูดทำไม ดูแลตัวเองดีกว่า อยากให้สังคมไทยหยุดดราม่า คนในวงการบันเทิง ก็หยุดดราม่า ไปขุดกันมา สร้างเรตติ้งให้กับตัวเอง คนที่พูดไม่ได้เดือดร้อนเลย แต่คนที่เดือดร้อนคือฉัน แต่ก็ไม่โทษใคร”

“จำไว้นะคะ โควิด เกิดขึ้นเพื่อทำให้คุณมีวินัย ไม่ใช่ด่าคนนู้นคนนี้ โทษคนนู้นคนนี้ แสดงความรังเกียจคนที่เกิดโรค อย่าป่วยจิต เสียงจากคนอายุ 60 กว่าจะ 70 ที่ตั้งใจทำงานอย่างดี อย่าดราม่า”

“เป็นกำลังใจให้กับทุกคน ที่เป็นเหยื่อ ของการดราม่าจากโรคโควิด ทั้งๆที่ดูแลตัวเองดีและไม่ได้ป่วย เข้าใจดี มันเจ็บปวดมาก เดินไปไหนมีแต่คนรังเกียจและมีแต่คนมอง เข้าใจค่ะ เกลียดมากเลย ดิฉัน ไม่เคยคิดเลย อายุจะ 70 แล้ว โดนบูลลี่จากสังคม แต่ก็อดทน และให้อภัยทุกคน และหวังว่าทุกคนจะทำความเข้าใจกับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ขอบคุณค่ะ”

 

นอกจากนี้ ยังแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง ให้ใส่แมสก์ รักษาระยะห่าง ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง