รีเซต

อาชีพช่วงโควิด "รับซื้อจิ้งจกส่งจีน" เพื่อทำยา-อาหาร แต่กินได้จริงหรอ?

อาชีพช่วงโควิด "รับซื้อจิ้งจกส่งจีน" เพื่อทำยา-อาหาร แต่กินได้จริงหรอ?
Ingonn
21 เมษายน 2564 ( 11:43 )
1.1K
อาชีพช่วงโควิด "รับซื้อจิ้งจกส่งจีน" เพื่อทำยา-อาหาร แต่กินได้จริงหรอ?

เป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ‘รับซื้อ จิ้งจก ขี้เกี้ยม จั้กกิ้ม’ ประกาศรับซื้อจิ้งจกสดๆ ขีดละ 30 บาท กิโลกรัมละ 300 บาท ตันละ 3 แสนบาท เพื่อนำตากแดดขายเป็นจิ้กจกอบแห้งส่งออก พร้อมลงเบอร์โทรศัพท์ให้ผู้สนใจติดต่อสอบถาม จนมีคนแห่แชร์ออกไปเป็นจำนวนมากนั้น

 

แต่ว่าเอาจริงๆแล้ว “จิ้งจก” มีประโยชน์อะไรไหมบนโลกใบนี้ หรือการเอาจิ้งจกมากิน มันกินได้จริงๆหรือเปล่า ?

 

 

จากจิ้งจกผนังบ้าน สู่ค่าตัวราคา 3 แสน

  • เจ้าของเพจดังกล่าว มาจากครอบครัวชาวนา เคยไปขายแรงงานอยู่ที่ไต้หวัน 7 ปี เกาหลีอีก 3 ปี เป็นต้น สามารถสื่อสารภาษาจีนได้คล่อง หลังกลับมาอยู่บ้านก็หาอาชีพอื่นทำเลี้ยงครอบครัว ส่วนใหญ่จะเป็นการค้าขายกับพรรคพวก ที่เคยทำงานอยู่ด้วยกันที่ไต้หวัน

 

  • 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อนชาวจีนแนะนำให้เจ้าของเพจส่งออกฝักคูน จึงกว้านซื้อจากชาวบ้านในราคากิโลกรัมละ 3 บาท แล้วบรรจุกระสอบส่งขายประเทศจีนในราคากิโลกรัมละ 10 บาท มีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท ต่อมามีการแพร่ระบาดของโควิดทำให้ธุรกิจต้องสะดุด

 

  • ระหว่างนั้นมีเพื่อนชาวอินโดนีเซีย ชักชวนตนทำจิ้งจกอบแห้งส่งออกประเทศจีน โดยติดต่อกันทางไลน์ในกรรมวิธีทำจิ้งจกอบแห้ง พร้อมกันนี้เพื่อนก็ได้ส่งเครื่องอบจิ้งจกจากอินโดนีเซียมาให้ถึงบ้าน จึงลองทำดู

 

 

 

ซื้อขายผ่านเพจอย่างจริงจัง

  • ขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘รับซื้อ จิ้งจก ขี้เกี้ยม จั้กกิ้ม’ ถ้าเป็นจิ้งจกสดๆจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 300 บาท ตันละ 300,000 บาท หากอบแห้งมาซื้อกิโลกรัมละ 700 บาท ตันละ 700,000 บาท

 

  • นอกจากนี้เจ้าของเพจจะขับรถยนต์ไปรับซื้อจิ้งจกสดทั่วภาคอีสาน เพื่อให้ทันออเดอร์ที่ทางประเทศจีนต้องการ ยอมรับว่ายังไม่มีการส่งออกเพราะเพิ่งเริ่มทำแค่ 2 เดือนนี่เอง โดยเถ้าแก่ชาวจีนได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนทุกวัน หากขาดเหลือด้านการเงินก็จะโอนเงินมาให้เสมอ ส่วนนำจิ้งจกไปปรุงเป็นยารักษาโรคอะไรนั้นตนไม่รู้

 

 

เปิดวิธีการจับจิ้งจกสร้างรายได้

ตามเพจระบุไว้ง่ายๆหลายวิธี เช่น

 

1.ป้ายยาสลบ ตามหลอดไฟ หรือที่จิ้งจกชอบเดินเยอะ ก่อนช่วงค่ำที่จิ้งจกออกหากิน

2.ไฟส่องกลางคืนหาจับตามทุ่งนา

3.ใช้เทปกาวเทปกาว 2 หน้าแปะตามทางเดินจิ้งจก

4.ผสมน้ำยาซักผ้า ผงซักฟอก ใส่ปืนฉีดน้ำยิงจิ้งจกจนร่วงตกลงมา

5.ใช้หนังยางยิง

6.ใช้ใบเป้าตองแตกตีตามฝาบ้านจิ้งจกจะออกมามากมาย

7.นั่งเล่นรอเก็บจิ้งจก พอมันกินสักพักมันจะร่วงลงพื้น

 

 

 

ห้ามจับจิ้งจกแบบนี้เด็ดขาด!

 

1.ห้ามใช้กาวดักหนูเพราะมันเหนียวแกะออกยากและจิ้งจกมองเห็น

2.ต้องทำให้แนบเนียนจิ้งจกมันฉลาดนะมันรู้ว่าเราทำอะไร บางทีมันเห็นเพื่อนมันสลบมันจะไม่กล้ากิน

3.วางยาเสร็จอย่าพึ่งไปกวนมันปล่อยให้มันร่วงเอง

 

 

เรากินจิ้งจกได้จริงหรอ?

 

ชาวบ้านอีสานเรียกว่าจิ้งจกว่า "ขี้เจี้ยม" มีสรรพคุณสำคัญตามความเชื่อโบราณ คือ เป็นยาชูกำลัง แก้โรคซาง ตานขโมยในเด็ก เพราะโบราณ ไม่มียารักษาโรคแผนปัจจุบัน ต้องอาศัยยารักษาโรคตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ปกติเวลากิน จะกินเป็นตัวสด หรือนำไปสับให้ละเอียดทำเป็นแหนม กินคล้ายกับตุ๊กแก แต่จะเน้นกินสดเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าจะได้สรรพคุณตัวยาดีกว่า แต่โบราณกินมาตลอด ถือเป็นเรื่องดี เพราะปกติเป็นสัตว์สร้างความรำคาญให้ชาวบ้าน แต่พอมีราคา ทำให้ชาวบ้านมีรายได้

 

นสพ.ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง ให้คำแนะนำว่า จิ้งจกเป็นสัตว์เลื้อยคลาน หากรับประทานเข้าไปเป็นๆ มีโอกาสได้รับโปรโตรซัวเข้าไปในทางเดินอาหารของเราได้ทันที เพราะจิ้งจกดำรงชีวิตด้วยการกินอาหารสด จำพวกแมลงหรือสัตว์ขนาดเล็ก ซึ่งสัตว์จำพวกนี้จะมีโปรโตซัวอยู่ในทางเดินอาหาร ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ติดเชื้อในทางเดินอาหาร หรือปวดท้องบิดได้

 

การกินจิ้งจกตัวเป็นๆ ไม่ได้ช่วยรักษาอาการปวดท้องและไม่ได้ช่วยเพิ่มพละกำลัง อีกทั้งในตัวจิ้งจกยังมีมีโปรโตซัว หากกินสดๆ อาจส่งผลให้ติดเชื้อในทางเดินอาหาร

 

 

ถ้ากินจิ้งจกไม่ดี แล้วจิ้งจกมีประโยชน์อะไรบ้างไหม

 

1.ช่วยลดแมลงตามบ้านเรือน

2.ช่วยเรื่องการรักษาระบบนิเวศ

 

 

ไม่ชอบจิ้งจกเลย อยากไล่ออกจากบ้านทำไงดี

เราสามารถใช้พืชในครัว ของใช้ในบ้าน และวิธีไล่จิ้งจกแบบธรรมชาติ ซึ่งปลอดภัยต่อคนด้วย ดังนี้

 

1.ใบสาบเสือและใบน้อยหน่า

ให้นำใบสาบเสือและใบน้อยหน่ามาตำด้วยกันให้ละเอียดพอประมาณ จากนั้น ให้นำผ้าบาง ๆ หรือถุงระบายอากาศมาห่อใบสาบเสือและใบน้อยหน่าที่ตำไว้ แล้วนำไปแขวนหรือวางไว้ตามจุดที่พบตัวจิ้งจก มูลจิ้งจก หรือหลอดไฟฟ้า เท่านี้กลิ่นจากใบพืชทั้งสองชนิดนี้จะช่วยผลักไสไม่ให้จิ้งจกมาเยือน

 

2.หัวหอมใหญ่หรือหัวหอมแดง

แค่หั่นหัวหอมเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ภาชนะ แล้ววางตามแหล่งที่จิ้งจกอยู่อาศัย หรือหั่นเป็นยาว ๆ แล้วตัดกลาง จากนั้น ให้ใช้ด้านที่ตัดทาลงบนพื้นที่ที่วางหัวหอมไม่ได้ เช่น กำแพง หลอดไฟ รับรองว่าฤทธิ์กลิ่นของหัวหอมจะทำให้จิ้งจกเผ่นเตลิดหนีแน่นอน

 

3.เปลือกมะนาว

พืชสวนครัวอีกชนิดที่มีกลิ่นและความเป็นกรดที่ช่วยกําจัดจิ้งจกได้ เพียงนำใส่ภาชนะเล็ก ๆ แล้ววางตามบริเวณที่จิ้งจกชอบอาศัยอยู่หรือเดินผ่าน หากเป็นที่สูง เช่น หลอดไฟ ก็ให้นำด้านหลังของเปลือกมะนาว ซึ่งเป็นส่วนที่มีเนื้อมะนาวติดและยังพอมีน้ำอยู่ ไปทาบริเวณหลอดไฟ (ส่วนที่ไม่นำกระแสไฟฟ้า) เพื่อให้กลิ่นและความเป็นกรดติด นับได้ว่าวิธีไล่จิ้งจกแบบนี้ใช้ได้กับทุกลักษณะพื้นที่


4.การบูร

เป็นอีกวิธีไล่จิ้งจกในบ้านที่ทำได้ง่าย ๆ เพียงนำการบูรแบบผง เม็ด หรือแท่งใส่ถุงผ้าบาง ๆ หรือถุงที่ระบายอากาศได้ไปไว้ในแหล่งจิ้งจกก็พอ โดยการบูรไม่ทำให้คนในบ้านระคายเคืองและรู้สึกมีกลิ่นฉุนเหมือน 2 วิธีแรก อีกทั้งยังช่วยไล่ยุง แมลงสาบ มด มอด และแมลงตัวเล็กตัวน้อยด้วย จึงได้ประโยชน์สารพัดอย่างที่เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัว

 

5.สเปรย์น้ำกระเทียมแบบ DIY

กระเทียมมีกลิ่นที่จิ้งจกไม่พึงประสงค์ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ให้นำกระเทียมที่ปอกเปลือก 15 กลีบมาคั้น ผสมกับน้ำเปล่าประมาณ 300 กรัม แล้วใส่ในขวดสเปรย์เปล่า

 

6.สเปรย์ไล่จิ้งจก

หากไม่มีเวลามทำสเปรย์น้ำกระเทียม ก็สามารถพึ่งสเปรย์ไล่จิ้งจกได้ โดยแนะนำให้ใช้สเปรย์สมุนไพร ซึ่งจะไม่เป็นอันตรายต่อคนในบ้าน สเปรย์นี้เป็นอีกวิธีไล่จิ้งจกที่ได้ผลเยี่ยม พร้อมยังช่วยไล่ตุ๊กแก งู และสัตว์ลิ้นสองแฉกอื่น ๆ ได้ด้วย

 

7.เลี้ยงแมว

นี่เป็นวิธีไล่จิ้งจกถาวรแบบธรรมชาติ เมื่อมีแมวผู้ล่า จิ้งจกย่อมหนีหายไม่มากล้ำกรายในบ้านอย่างแน่นอน แต่วิธีนี้ไม่เหมาะ หากสมาชิกในบ้านแพ้ขนสัตว์หรือไม่ชอบเลี้ยงแมว

 

หรืออีกวิธีที่อยากไล่จิ้งจกออกจากบ้าน ลองใช้วิธีจับไปจิ้งจกจากเพจแล้วนำไปขายสร้างรายได้ช่วงโควิดกันนะ โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 093-042-4462 หรือเพจเฟซบุ๊ก ‘รับซื้อ จิ้งจก ขี้เกี้ยม จั้กกิ้ม’

 

 

 

 

 

 

ข้อมูลจาก มติชน , เพจเฟซบุ๊ก ‘รับซื้อ จิ้งจก ขี้เกี้ยม จั้กกิ้ม’ , Workpoint Today

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง