นพ.ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ เปิดประวัตินักรบชุดขาว ทำไมคนสารคามถึงรัก
นพ.ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ ผู้ป่วยโควิดรายที่ 18 ระลอกใหม่ขอจังหวัดมหาสารคาม ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 01.19 น.ของวันที่ 18 ก.พ.64 ที่โรงพยาบาลศรีนคริทร์ จ.ขอนแก่น โดยติดเชื้อภายหลังจากตรวจผู้ป่วยโควิด-19 คลัสเตอร์กลุ่มงานเลี้ยงสังสรรค์โต๊ะแชร์
สำหรับประวัติส่วนตัวของ นพ.ปัญญา นั้น เป็นอดีตแพทย์อายุรกรรมที่โรงพยาบาลมหาสารคาม อายุ 66 ปี และเปิดคลินิกส่วนตัวโดยใช้ชื่อว่า "ปัญญาการแพทย์" ที่หัวมุมถนนศรีราชวงศ์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป
นอกจากนี้ นพ.ปัญญา ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง มูลนิธิคุณวีโรกุศลสงเคราะห์ (เอ็ง เต็ก ตึ๊ง) และเป็นที่ปรึกษา ผู้ร่วมก่อตั้งหน่วยแพทย์อาสา มูลนิธิคุณวีโรกุศลสงเคราะห์ ที่ปรึกษาหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยมูลนิธิคุณวีโรกุศลสงเคราะห์ (เอ็ง เต็ก ตึ๊ง) อีกด้วย
นพ.ปัญญา เป็นแพทย์ที่มีความกระตือรือร้นในการทำงาน เมื่อเกษียณอายุราชการจากโรงพยาบาลมหาสารคาม จึงมาประจำอยู่ที่คลินิกของตัวเองที่มีชื่อว่า "คลินิกเวชกรรม ปัญญาการแพทย์" เพื่อเปิดรักษาโรคทั่วไป โดยมีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษากับ นพ.ปัญญา อย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่เป็นคนจิตใจดี เข้าอกเข้าใจคนไข้ คิดราคาค่ารักษาไม่แพง โดยเฉพาะเณร พระ จะไม่คิดค่ารักษาพยาบาล และยังชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เป็นประจำ ทำให้ นพ.ปัญญา เข้าไปอยู่ในหัวใจและเป็นที่รู้จักของคนมหาสารคามจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เช้าวันนี้ข่าวการจากไปของ นพ.ปัญญา ทำให้ชาวมหาสารคามตกใจอย่างมาก ไม่มีใครคาดคิดว่า นพ.ปัญญา จะจากไปเร็วเช่นนี้
ด้าน นายปานปราชญ์ หาญพาณิชย์พันธุ์ ลูกชายคนโต กล่าวว่า "คุณพ่อเป็นหมอธรรมดาคนหนึ่งที่ชอบรักษาคนไข้ ที่รักษาอย่าละเอียด ในการักษาพระ เณร ชี จะไม่เก็บค่ารักษาเลย สำหรับอาการของคุณพ่อ 3 วันแรก จะมีไข้สูงในช่วงกลางคืน และต้องรับโทรศัพท์จากผู้ป่วยมาจำนวนมาก วันที่ 4 เลยต้องงดใช้โทรศัพท์ แต่อาการไม่ดีไอเป็นเลือด เลยไปเอ็กซ๋เรย์ก็พบว่าลงปอดไปแล้ว กำลังใจดีมาก ขอขอบคุณที่ให้กำลังคุณพ่อเป็นอย่างมาก"
ขณะที่ นางจิตตินนุช หาญพาณิชย์พันธุ์ 59 ปี ภรรยา กล่าวว่า "ขอขอบคุณที่ห่วงใยมาก ให้ระวังอย่าการ์ดตก เฝ้าระวังโควิดให้ดี ดูแลสุขภาพทุกๆคน"
สำหรับไทม์ไลน์การปฏิบัติหน้าที่และอาการป่วยของ นพ.ปัญญา มีรายละเอียด ดังนี้
- วันที่ 1-11 ม.ค. ปฏิบัติงานที่ คลินิกปัญญาการแพทย์ ปกติ
- วันที่ 13 ม.ค. เวลา 18.00 - 20.00 น. ผู้ป่วยติดเชื้อระลอกใหม่ รายที่ 11 มาตรวจรักษาด้วยอาการไข้
- วันที่ 19 ม.ค. เวลา 09.00 - 12.00 น. ผู้ป่วยติดเชื้อระลอกใหม่ รายที่ 9 มาตรวจรักษาด้วยอาการไอ ไม่มีไข้
- วันที่ 25 ม.ค. เวลา 18.30 - 19.00 น. ผู้ป่วยติดเชื้อระลอกใหม่ รายที่ 2 มาตรวจรักษาด้วยอาการไข้สูง จึงได้แนะนำให้ไปรับการรักษาต่อ คลินิกโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ที่ รพ.สุทธาเวช
- วันที่ 28 ม.ค. ช่วงเย็นทราบว่ามี ผู้ป่วยติดเชื้อระลอกใหม่ รายที่ 2 ที่มาให้ตรวจรักษา ในวันที่ 25 ม.ค. เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงปิดคลินิกและกลับบ้านพัก ไม่ได้ออกไปไหน (แยกห้องนอน เริ่มกักตัวเอง)
- วันที่ 29 ม.ค. เข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ครั้งที่ 1 เวลา 20.00 น. รพ.สุทธาเวช แจ้งผลการตรวจ ไม่พบเชื้อโควิด-19 อยู่บ้านพัก ไม่ได้ออกไปไหน
- วันที่ 31 ม.ค. มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ครั่นเนื้อครั่นตัว คล้ายจะเป็นไข้
- วันที่ 1 ก.พ. ช่วงเวลา 17.25 น. เข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ครั้งที่ 2 มีไข้ ช่วงเวลา 19.30 น. เข้ารับการรักษาที่ ตึกเฉพาะโรค รพ.มหาสารคาม เวลา 22.00 น. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19
กําหนดบําเพ็ญกุศลและฌาปนกิจ ณ มูลนิธิคุณวีโรกุศลสงเคราะห์ (เอ็ง เด็ก ตั้ง) มหาสารคาม วันที่ 18 ก.พ.64
08:30 น. เคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต (ผนึกตามมาตรการโรคระบาด) สู่อาคารขันติวิริยาคุณานุสรณ์ มูลนิธิคุณวิโรกุศลสงเคราะห์ จังหวัดมหาสารคาม
09:30 น. ถึงอาคารจัดตั้งร่างผู้เสียชีวิต (อาคาร 1)
10.00 น. สวดมาติกาบังสุกุล (อาคาร 2)
11:00 น. ถวายภัตตาหารเพล (อาคาร 2) พระสงฆ์อนุโมทนา (อาคาร 2)
13:00 น. สวดพระอภิธรรม (อาคาร 2)
14:00 น. ทอดผ้าบังสุกุล (อาคาร 2)
15:00 น. สวดมาติกาบังสุกุล (อาคาร 2)
15:30 น. เคลือนร่างผู้เสียชีวิตสู่วัด... (ตามมาตรการโรคระบาด)
16:30 น. ประกอบพิธีฌาปนกิจ (เมื่อไปถึงสถานที่ฌาปนกิจ ไม่มีการประกอบพิธีอื่นใดๆ
18.00 น. เจริญพุทธมนต์ (บ้านผู้วายชนม์หรือที่มูลนิธิคุณวิโรกุศลสงเคราะห์) พระสงฆ์อนุโมทนาเสร็จพิธี
สำหรับมาตรการสำหรับผู้เข้าร่วมงาน ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และถูกวัดอุณหภูมิคัดกรองก่อนเข้าร่วมงาน ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน อย่างน้อย 2 เมตร ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีประวัติเสียงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมงาน ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวภายในงาน ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาต รวมถึงไม่อนุญาตให้มีการเผยแพร่ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวออกสู่สาธารณะ ผู้เข้าร่วมงานเคารพศพเฉพาะจุดที่กําหนดไว้เท่านั้น หมายเหตุ พระสงฆ์ 4 รูป ผู้ร่วมงานไม่เกิน 50 คน