ญี่ปุ่น - เกาหลีใต้ เร่งเดินหน้าหาทางปิดดีลการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตาย 1 สิงหา 2568

ญี่ปุ่นเร่งเจรจาการค้ากับสหรัฐฯต่อ แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะแพ้การเลือกตั้งสภาสูง

"เรียวเซ อากาซาวะ" หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (21 กรกฎาคม 2568) ว่า เขาตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ให้ทันภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ตามเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำหนดไว้

อากาซาวะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทันทีที่เดินทางถึงสนามบินนานาชาติใกล้กรุงวอชิงตันว่า “ผมไม่มีความกังวลในประเด็นนี้” เมื่อถูกถามว่าความพ่ายแพ้ของพรรครัฐบาลผสมในการเลือกตั้งวุฒิสภาเมื่อวันอาทิตย์ (20 กรกฏาคม 2568 ) จะทำให้การเจรจาทางการค้าที่หยุดชะงักอยู่ ยิ่งลำบากขึ้นหรือไม่

“ผมเชื่อว่าทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ต่างก็ต้องการบรรลุข้อตกลงบางอย่างภายในเวลานั้น” อากาซาวะกล่าว โดยหมายถึงช่วงที่มาตรการระงับภาษีตอบโต้ของทรัมป์จะสิ้นสุดลง

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อากาซาวะเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการเจรจาแบบพบหน้ารอบที่ 8 กับคณะรัฐมนตรีของสหรัฐฯ โดยออกเดินทางจากญี่ปุ่นเพียงหนึ่งวันหลังผลการเลือกตั้งระดับชาติที่พรรคร่วมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี"ชิเงรุ อิชิบะ" สูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง

อากาซาวะเสริมว่า ระหว่างการเดินทางเยือนครั้งนี้ ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดภายในวันพุธ (23 กรกฎาคม) เขาจะพยายามหาทางพบปะกับ"สก็อตต์ เบสเซนต์" รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง, "โฮเวิร์ด ลุตนิก" รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และ"เจมีสัน เกรียร์" ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) หากตารางเวลาของแต่ละฝ่ายเอื้ออำนวย

ทั้งนี้ หากญี่ปุ่นไม่สามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้ทันเวลา สินค้าญี่ปุ่นจะถูกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตรา 25% ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศ

นอกจากนี้ อัตราภาษีดังกล่าวจะซ้อนทับกับภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ในหลายภาคส่วนที่ทรัมป์ได้เรียกเก็บแล้วเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ

เกาหลีใต้เร่งเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนกำหนดเส้นตาย บังคับใช้ภาษีตอบโต้ 1 สิงหาคม 2568 นี้

"คู ยุน-ชอล" รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ (22 กรกฎาคม 2568) ว่า ตนเองและ "ยอ ฮัน-กู" รัฐมนตรีการค้า เตรียมเข้าพบคู่เจรจาสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (25 กรกฎาคม) เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้มีแผนเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อเจรจาการค้าโดยเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน

ทั้งนี้คูเป็นหนึ่งในทีมเจรจาชุดใหม่ อันประกอบไปด้วย รัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีการค้า รัฐมนตรีอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี "อี แจ-มยอง" หลังเข้าพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้การตอบสนองของเกาหลีใต้ต่อมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องล่าช้าออกไป ท่ามกลางความปั่นป่วนทางการเมืองภายในประเทศที่มีชนวนเหตุจากความพยายามประกาศกฎอัยการศึกจนนำไปสู่การถอดถอนประธานาธิบดีและการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด

สำหรับการเจรจาการค้าในครั้งนี้ รัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้มีกำหนดพบปะหารือกับ "สก็อตต์ เบสเซนต์" รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และ"เจมีสัน เกรียร์" ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ซึ่งคูเผยว่าเป็นการหารือตามคำร้องขอของสหรัฐฯ

คู ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ (21 กรกฎาคม) กล่าวว่า ทีมเกาหลีใต้ได้หารือกันโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและเน้นผลสัมฤทธิ์เป็นที่ตั้ง พร้อมย้ำว่าจะเตรียมกลยุทธ์อย่างรอบคอบก่อนเดินทาง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ตอบคำถามว่ารัฐบาลเกาหลีใต้มีความพยายามที่จะขยายเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม ก่อนที่มาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์จะมีผลหรือไม่

ขณะเดียวกัน "คิม จอง-กวาน" รัฐมนตรีอุตสาหกรรมคนใหม่ของเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ กำลังอยู่ในขั้นตอนสำคัญซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่หลากหลาย พร้อมยืนยันว่าจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้การเจรจาเสร็จสิ้นภายในเส้นตาย 1 สิงหาคม