รีเซต

"คลัง" เปิดรายละเอียด งบประมาณ 1.8 หมื่นล้าน ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังแข่งขัน พัฒนาทุนมนุษย์

"คลัง" เปิดรายละเอียด งบประมาณ 1.8 หมื่นล้าน ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังแข่งขัน พัฒนาทุนมนุษย์
TNN ช่อง16
6 สิงหาคม 2568 ( 10:38 )
8

รัฐมนตรี "คลัง" ชี้แจงรายละเอียด งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.8 หมื่นล้าน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน-พัฒนาทุนมนุษย์


นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าถึงรายละเอียดของการใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากล่าสุดเมื่อวานนี้ (วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ระยะที่ 2 ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 2 หน่วยรับงบประมาณ ภายในกรอบวงเงิน 18,488.3679 ล้านบาท


เพื่อเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยให้พร้อมรับมือการแข่งขันทางเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการขึ้นภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของสหรัฐฯ และเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ในกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา และเป็นการรองรับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัวในปี 2568 และเป็นการวางรากฐานการเติบโตของประเทศในระยะยาว โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้


1. โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย

หน่วยงานดำเนินโครงการ : กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน


วัตถุประสงค์ : เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยให้พร้อมรับมือการแข่งขันทางเศรษฐกิจโลก ดึงดูดและรักษาการลงทุนจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายด้วยการบรรเทาผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ


มาตรการภาษีส่วนเพิ่ม (Global Minimum Tax) และส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สร้างมูลค่าเพิ่มถ่ายทอดเทคโนโลยี และพัฒนาบุคลากร

ระยะสั้น : สนับสนุนพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมใหม่

ระยะยาว : สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร และการลงทุนเพื่อยกระดับขีดความสามารถ


กลุ่มเป้าหมาย : ผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีส่วนเพิ่ม (Global Minimum Tax) และผู้ลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย


งบประมาณ : 10,000 ล้านบาท โดยจัดสรรให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำหรับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ



2. โครงการการลงทุนพัฒนาทุนมนุษย์ เพื่อรองรับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยอาจชะลอตัวในปี 2568

หน่วยงานดำเนินโครงการ : กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)


วัตถุประสงค์ : เพื่อให้เงินกู้ยืมที่เป็นค่าครองชีพและค่าเล่าเรียน รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างศึกษา สำหรับนักเรียน/นักศึกษาที่เป็นผู้กู้ยืมเงินรายใหม่/ผู้กู้ยืมเงินรายเก่า ซึ่งจะทำให้นักเรียน/นักศึกษาได้ศึกษาอย่างต่อเนื่อง ไม่พักการศึกษาหรือเลิกการศึกษาในปีการศึกษา 2568


กลุ่มเป้าหมาย : นักเรียน/นักศึกษาที่เป็นผู้กู้ยืมเงินรายใหม่/ผู้กู้ยืมเงินรายเก่า รวมจำนวน 139,481 ราย


งบประมาณ : 8,488.3679 ล้านบาท


นายพิชัย ระบุว่าข้อเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ระยะที่ 2 เป็นไปตามหลักการและแนวทางการทบทวนการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน”


สำหรับเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของประเทศสหรัฐอเมริกา 3 ด้าน ได้แก่


การรับมือกับผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจเติบโตในอัตราต่ำ

การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้ผลกระทบ

การพัฒนาทุนมนุษย์


ทั้งนี้ ข้อเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ระยะที่ 2 ให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาทุนมนุษย์  ส่วนในระยะต่อไปคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจะพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจต่อไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง