K-Defense เมื่ออาวุธเป็นสินค้าสำคัญ เกาหลีใต้ส่งออกทั้งซอฟ และฮาร์ดพาวเวอร์

เรารู้จัก K-Pop ไอดอล และเพลงดังจากเกาหลีที่ติดหู ติดชาร์ตทั่วโลก, K-Dramas ละครเกาหลี ที่ทำให้เราดูติดจอ หรืออาหารเกาหลี K-Food รามยอน ต็อกโบกี ที่ดูซีรีส์แล้วก็อยากกินตาม แต่นอกจากซอฟพาวเวอร์เหล่านี้แล้ว ช่วงที่ผ่านมา การส่งออกอาวุธ หรือฮาร์ดพาวเวอร์ของเกาหลีใต้ก็กำลังมีอิทธิพลกับโลกไม่แพ้กัน
การส่งออกฮาร์ดพาวเวอร์ที่มาคู่กับซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีใต้
ข้อมูลของ Korea Foundation พบว่าเกาหลีใต้ส่งออกวัฒนธรรม หรือ K-Culture ที่ถูกมองว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ในปี 2022 เป็นมูลค่าเกิน13.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.8 แสนล้านบาท) ขณะเดียวกันรายงานของหน่วยงานด้านการป้องกันประเทศเกาหลีเอง ก็ชี้ว่า ในปี 2022 นั้น การส่งออกอาวุธ และระบบป้องกันเกาหลีใต้ก็สร้างมูลค่าได้ 14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังติดในผู้ส่งออกอาวุธอันดับ 10 ของโลก เป็นปีที่สองติดต่อกัน
เห็นได้ถึงฮาร์ดพาวเวอร์ที่กำลังมาแรง ควบคู่ไปกับซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งหากซอฟต์พาวเวอร์ที่ผ่านการลงทุน และผลักดันของรัฐบาลควบคู่ไปกับเอกชนมายาวนานนั้น ฮาร์ดพาวเวอร์ด้านอาวุธของเกาหลีใต้เอง ก็ไม่ได้เกิดขึ้นได้ในเพียงไม่กี่ปีเช่นกัน
แนวคิดการพัฒนาอาวุธ และป้องกันประเทศของเกาหลีใต้ เกิดขึ้นหลังการประกาศหลักการนิกสัน ในปี 1969 หรือนโยบายที่สหรัฐฯ ประกาศจะถอนกำลังจากเวียดนาม ที่ทำให้ประเทศในเอเชียต้องรับผิดชอบต่อความมั่นคง และการทหารของตัวเอง จนทำให้ในปี 1970 อดีต ปธน.ปาร์ก จุงฮี เปิดตัว Agency for Defense Development (ADD) เพื่อส่งเสริมการป้องกันประเทศแบบพึ่งพาตนเองได้
เป้าหมายแรกของหน่วยงานคือการผลิตอาวุธพื้นฐานในประเทศ เช่น ปืน กระสุน อุปกรณ์สื่อสาร และยานพาหนะ ก่อนจะพัฒนาเป็นเรื่องการรักษาความปลอดภัย และความสามารถในการผลิตอาวุธที่มีความแม่นยําในประเทศ เช่น รถถัง เครื่องบิน ขีปนาวุธนําวิถี และเรือรบ
หน่วยงานนี้ยังคงมีการเปิดตัว และดำเนินการมาถึงปัจจุบัน โดยมีนักวิจัย และพนักงานกว่า 3 พันคน ที่ยังคงทำการศึกษา และพัฒนาอาวุธ รวมถึงทำงานร่วมกับเอกชนด้วย
ซึ่งนอกจากอาวุธที่ส่งออกได้อย่างมาก ล่าสุดสื่อเกาหลีใต้เอง ก็รายงานว่าไทยได้ใช้ระเบิด KGGB ที่ผลิตในเกาหลีใต้ ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกัมพูชาด้วย ซึ่งระเบิดนี้ คือ ระเบิดนำวิถีด้วย GPS เกาหลี (Korean GPS Guided Bomb) หรือเรียกสั้นๆ ว่า "GGB"
ตั้งเป้าจะเป็นใหญ่ด้านส่งออกอาวุธ แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องวัฒนธรรม
แต่อาจเรียกได้ว่า การส่งออกอาวุธของเกาหลีใต้นั้น ขายดี และบูมขึ้นมา เพราะสถานการณ์สงคราม โดยเฉพาะในรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งการส่งออกอาวุธเหล่านี้ เพิ่มมากขึ้นในปี 2018-2022 มากขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับช่วงปี 2013–2017
ในปี 2022 เกาหลีเริ่มจากการส่งอาวุธให้ประเทศอื่นๆ เพียง 4 ประเทศ รวมถึงโปแลนด์ แต่ในปัจจุบันลูกค้าของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็นถึง 12 ประเทศ รวมถึง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และอินเดีย ทั้งระบบอาวุธที่ส่งออกยังเพิ่มจาก 6 ประเภท เป็นถึง 12 โดยอาวุธที่ส่วนใหญ่เกาหลีใต้ส่งออกได้แก่ ปืนใหญ่ K9, เครื่องบินขับไล่ FA-50, รถถัง K2 และระบบปืนใหญ่จรวด Chunmoo ทั้งในปีนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ก็ได้ประกาศแล้วว่าได้บรรลุข้อตกลง และทำสัญญาส่งอาวุธให้อีกหลายประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะกับประเทศในตะวันออกกลาง
ในยุคของรัฐบาลยุล ซ็อกย็อลเอง ก็ได้ประกาศผลักดันแผนให้เกาหลีใต้กลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกให้ได้ภายในปี 2027 และแม้จะเปลี่ยนสมัยมาเป็นยุคของรัฐบาล อี แจมย็องแล้ว ก็มีแนวโน้มว่าความตั้งใจของเกาหลีใต้จะไม่เปลี่ยนไป เพราะประธานาธิบดีคนใหม่นี้ ประกาศตั้งแต่หาเสียงว่า เขาจะผลักดันให้เกาหลีใต้เป็นประเทศส่งออกอาวุธ ซึ่งการลงทุนในอุตสาหกรรมอาวุธ ก็จะมาร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยี การปฏิวัติ AI การแข่งขันอวกาศด้วย
แต่นอกจากจะผลักดันฮาร์ดพาวเวอร์แล้ว ซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีก็ยังคงเติบโตได้ดี โดยล่าสุด ได้ติดอันดับ 15 จาก 193 ประเทศ ในการจัดอันดับ Brand Finance’s Global Soft Power Index ทั้งประธานาธิบดีอี แจมย็องเองยังคงประกาศจะผลักดันให้วัฒนธรรมเกาหลี ได้โชว์สู่โลก
โดยเขาได้กล่าวในการพบปะบุคคลในวงการบันเทิง และวัฒนธรรมในเกาหลีใต้ว่า หากเพิ่มการลงทุน และการสนับสนุนในภาควัฒนธรรม ให้เป็นนโยบายระดับชาติ จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ “การพัฒนาภาคส่วนนี้ให้เป็นอุตสาหกรรม และก้าวสู่ระดับโลกเพื่อเพิ่มอิทธิพลทางวัฒนธรรมของสาธารณรัฐเกาหลี เราจะสามารถกลายเป็นมหาอำนาจระดับโลกและประเทศชั้นนำได้หรือไม่” ปธน.อีกล่าว
อาจะมองได้ว่า นอกจากซอฟต์พาวเวอร์ที่เราเห็น K-Culture ตีตลาดไปทั่วโลกแล้ว สภาวะที่การเมืองโลกไม่แน่นอน และมีความขัดแย้งมากขึ้น เกาหลีใต้ก็ได้ตีตลาดฮาร์ดพาวเวอร์ไปพร้อมๆ กัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
