MFCโฟกัสตลาดยุโรป-สหรัฐ กลุ่มเทคปรับตัวทยอยลงทุน

#MFC #ทันหุ้น -MFC มองตลาดหุ้นยุโรปน่าสนใจ ส่วนหุ้นเทคสหรัฐปรับตัวลงจากความกังวล DeepSeek เป็นจังหวะทยอยลงทุนชู “MGF” เน้นหุ้นคุณภาพดีทั่วโลก กระจายลงทุนหลากหลายอุตสาหกรรม ส่วนยุโรปแนะกอง “MEURO”เน้นลงทุนหวังผลระยะยาว
นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC กล่าวว่า บลจ.เอ็มเอฟซี มอง ตลาดหุ้นยุโรป น่าสนใจลงทุน ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2568มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดหุ้นยุโรปต่อเนื่อง ดัชนี STOXX 600ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำนิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2-3ครั้งในปีนี้ จากมุมมองที่ว่าภาวะเงินเฟ้อได้คลี่คลายลงโดยปัจจัยหนุนทำให้ ตลาดหุ้นยุโรป ฟื้นตัวต่อเนื่อง มาจากกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต นำโดยหุ้นกลุ่มแบงก์รายงานกำไร Q3/67 มากกว่าคาด 12%ขณะที่ Valuation ไม่แพง และให้ผลตอบแทนหรือ Dividend yield สูงถึง 7% โดยตลาดคาด Q4/67กำไรจะเติบโตต่อเนื่อง
*แบรนด์หรูโตดีในสหรัฐ-ยุโรป
หุ้นกลุ่ม Luxury Brand มีสัญญาณฟื้นตัว หลังแบรนด์หรูอย่าง Cartier รายงานยอดขายสูงกว่าคาดใน Q4/67โดยมียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 10%YoY หลักๆ จากสหรัฐและยุโรป แต่มีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกลดลง 7%โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงและมาเก๊า ลดลงถึง 18%แต่มองแนวโน้มการฟื้นตัวภาคบริโภคของจีนน่าจะดีขึ้น หลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้น
ขณะที่หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปนำโดย ASML บริษัทผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปให้กับโรงงานผลิตชิปทั่วโลกมีสัญญาณฟื้นตัว หลังยอดขายบริษัท TSMC สูงกว่าคาดใน Q4/67 เนื่องจากความต้องการฮาร์ดแวร์ AI ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้เปิดตัว Stargate เมกะโปรเจ็กต์ AI สุดยิ่งใหญ่เม็ดเงินลงทุนกว่า 5แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ตลาดหุ้นยุโรปยังมีปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของสหรัฐ แต่ตลาดมองว่า มีแนวโน้มจะประกาศเก็บภาษีจากแคนาดา เม็กซิโกและจีน ก่อนเก็บภาษีจากยุโรป ปัจจุบันตลาดหุ้นยุโรปราคายังถูกและซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ค่า Forward P/E อยู่ที่ระดับ 13.7 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว" นายธนโชติ กล่าว
บลจ.เอ็มเอฟซี แนะนำกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี คอนติเนนทัล ยูโรเปียน อิควิตี้ (MEURO) ลงทุนหุ้นในกลุ่มประเทศยุโรป (ไม่รวมอังกฤษ) ด้วยรูปแบบการลงทุนที่ยืดหยุ่น ลงทุนได้ทั้งหุ้นขนาดใหญ่, กลางและเล็ก สามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนได้ตามมุมมองและสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง
*จังหวะทยอยลงทุนหุ้นเทค
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ นายธนโชติ กล่าวว่า เป็นโอกาสในการหาจังหวะการเข้าลงทุนในหุ้นที่ปรับฐานลง มาโดยเฉพาะหุ้นด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ ที่ปรับฐานลงมาจากความกังวลโมเดล AI บริษัท DeepSeek ของจีน บลจ.เอ็มเอฟซี มองเป็นโอกาสเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มเมกะเทรนด์โลก มีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องตามความต้องการใช้นวัตกรรมและ AI ที่เพิ่มขึ้น จากความกังวลโมเดล AI จากบริษัท DeepSeek ของจีนอาจส่งผลกระทบต่อตลาดเทคโนโลยีสหรัฐ
เนื่องจากต้นทุนของ DeepSeek อยู่ที่ประมาณ 5ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเพียง 3-5% ของ Generative AI ของเจ้าอื่นๆ แพงกว่า ส่งผลให้หุ้นเทคที่เป็นกลุ่มต้นน้ำ NVIDIA, AMD และ ASML ปรับฐานลงมาอย่างไรก็ตาม ประเด็นของ DeepSeek จะทำให้ความต้องการชิปเพิ่มขึ้นด้วยในระยะยาว
ในเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มกลับมาผันผวนอีกครั้ง หลังทรัมป์ประกาศปรับขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหม่ (Tariffs)อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของผลกระทบในรอบนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีการเจรจาต่อรอง หรือตอบโต้กลับจากประเทศคู่กรณีหรือไม่ มองการปรับตัวของตลาดหุ้นสหรัฐรอบนี้ เป็นจังหวะทยอยลงทุน โดยเน้นลงทุนในหุ้นเติบโตคุณภาพดี และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI ที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
โดย บลจ.เอ็มเอฟซี แนะนำ “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล โฟกัส (MGF)” เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตคุณภาพดีทั่วโลก (Quality Growth Stock) ลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ มีความได้เปรียบในการแข่งขัน ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาด