JMARTเพิ่มทุนกด 24% SINGERอ่วมจะรูด 37%
ทันหุ้น – วิเคราะห์ดีลกลุ่ม JMART โบรกมองระยะสั้นเพิ่มทุน ทำให้มี Dilution ราว 24.9% แต่ระยะยาวมองบวกจากการ Synergy ร่วมกัน ขณะที่ SINGER เพิ่มทุนเปิดทางให้ U เข้าถือหุ้น 24.9% จะมีผล Dilution ราว 37% มองเงินที่ได้ช่วยต่อยอดธุรกิจเช่าซื้อและจำนำทะเบียนได้ รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ด้านผู้บริหาร JMART วางแผน Transform และ Synergy ร่วมกันในทุกรูปแบบ
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มองว่าหุ้นบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ในระยะสั้น อาจมีแรงกดดันจากการออกหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งทำให้มี EPS Dilution 24.9% ซึ่งบริษัทจะได้รับเงินสดราว 1.1 หมื่นล้านบาท สามารถนำไปชำระหนี้บางส่วนเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และจะใช้เงินอีกส่วนไปลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT และบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGERโดยสัดส่วนการถือหุ้นของ JMART ใน SINGER จะลดลงจาก 35% เป็น 26% หลังจากที่ SINGER เพิ่มทุนเพื่อขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมและบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U
อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางและยาว มองเชิงบวกต่อดีลการเข้าร่วมลงทุนนี้ เนื่องจากเป็นการสร้าง Strategic Partner หลักเพื่อเสริมสร้าง Ecosystem ของทั้ง 2 กลุ่มบริษัท เนื่องจากเป็นการเข้าถือหุ้นใหญ่รวมสัดส่วนมากกว่า 20% จึงคาดว่ามีโอกาสรับผล Synergy ระหว่างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทในอนาคต เช่นการใช้ฐานข้อมูลจาก Platform e-Wallet ผ่าน Rabbit LINE Pay ที่มีฐานลูกค้ากว่า 9 ล้านราย นำมาวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกันภัย และธุรกิจ Consumer Finance รวมถึงการส่งเสริมด้าน Logistic Platform ผ่านบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจ Retail ของ JMART
*ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
รวมถึงการสนับสนุนด้านการตลาด การโฆษณาสินค้าบนพื้นที่ของเครือ BTS และโอกาสการขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายเปิดสาขาย่อย Pop-Up Stores หรือ Drop Point ตามจุดสถานีรถไฟฟ้า ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น JMART โดยเบื้องต้นให้ราคาพื้นฐานปี 2564 ที่ 45 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างปรับประมาณการไปใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ภายหลังมีความชัดเจนด้านแผนธุรกิจในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าจากทางบริษัท
ฝ่ายวิจัยคาดว่าการเพิ่มทุนของ SINGER จะได้รับผลกระทบระยะสั้นจากแรงกดดัน EPS Dilution 37% ซึ่งเงินที่บริษัทได้จากการระดมทุนส่วนใหญ่จะนำไปต่อยอดกลุ่มธุรกิจเช่าซื้อและจำนำทะเบียน รวมถึงอาจมีธุรกิจดึง Synergy เพิ่มเติมหนุนระยะกลาง-ยาว ขณะที่ภาพธุรกิจในระยะกลางถึงยาว มองว่าเป็นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจจากการดึง U เข้ามาร่วมถือหุ้น โดยได้รับการสนับสนุนของกลุ่ม BTS ทั้งด้านการตลาด ช่องทางการจัดจำหน่าย ฐานข้อมูลลูกค้าเป็นต้น แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 52 บาทต่อหุ้น
ส่วนการเพิ่มทุนของ JMT นั้นมองเป็นดีลต่อเนื่องจากการที่กลุ่ม BTS เข้ามาถือหุ้นใน JMART ทำให้ JMART ได้รับเงินเพื่อนำเงินไปลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ JMT ขณะเดียวกัน JMT ก็มีเงินทุนในการขยายธุรกิจเข้าซื้อหนี้ NPL ในภาวะที่เป็นขาขึ้นของอุตสาหกรรมที่จะมีปริมาณหนี้ NPL ออกมามาก หนุนราคาต้นทุนซื้อที่คาดต่ำลง จึงแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 51 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ได้ปรับราคาเป้าหมายหุ้น VGI เพิ่มขึ้นเป็น 8.10 บาทต่อหุ้น จากเดิม 6.70 บาทต่อหุ้น หลังปรับฐานประเมินมูลค่าเป็นสิ้นปี 2565 และได้รวมผลจากการเข้าลงทุนใน JMART เพราะคาดว่าจะมีผล Synergy ทันที เพราะ JMART จะใช้สื่อของ VGI และบริษัท แฟนสลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด หรือ Fanslink ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ VGI สามารถขายผลิตภัณฑ์ในช่องทางออฟไลน์ได้ที่ร้านค้าของ JMART ทั่วประเทศ
*ผลงานโตโดดเด่น
ด้านนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART กล่าวว่า การที่ VGI และ U เข้ามาร่วมลงทุนในกลุ่มเจมาร์ท นับเป็นโอกาสได้ผสานในธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอีโคซิสเต็มครบวงจร ด้วยเม็ดเงินระดมทุนก้อนใหญ่ ที่สามารถรองรับการขยายธุรกิจ แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด ก็เชื่อมั่นได้ว่า เจมาร์ทมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ
นอกจากธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตยิ่งขึ้นแล้ว การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของกลุ่มเจมาร์ท ทำให้มีงบดุลที่แข็งแกร่งขึ้น มีโอกาสที่เครดิตเรตติ้งจะดีขึ้น และการขยายธุรกิจด้วยต้นทุนการเงินที่ลดลงของ SINGER และ JMT จะสะท้อนกลับมาที่ JMART ในแง่ของกำไรที่โดดเด่นชัดเจน โดยตั้งเป้าภาพรวมกำไรปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี ซึ่งยังไม่นับรวมการผนึกพันธมิตรต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกับบริษัท VGI และ U ภายในกลุ่ม BTS