Kนำร่องอีเวนต์โลกใหม่ หวังเทิร์นอะราวด์เต็มตัว
ทันหุ้น – K ศึกษาแผนนำระบบ Visual – Metaverse จัดอีเวนต์โลกใหม่ เชื่อปี 65 งานอีเวนต์กลับมา เร่งเครื่องดันยอดสู่ระดับปกติแตะ 600 ล้านบาท แย้มเตรียมชงบอร์ดทำแผนธุรกิจเร็วๆ นี้ มองเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์เต็มตัว พร้อมเดินหน้าคว้างานช็อปไฮเอนด์
นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ นักลงทุนสัมพันธ์ ผู้จัดการด้านสื่อสารองค์กร และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) หรือ K เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการนำดิจิทัลมาร่วมใช้จัดงานแสดงสินค้า อีเวนต์ หรือ EMA (Exhibitions & Events, Thematic & Museums, Alternative Marketing) โดยมองระบบ Visual และ Metaverse น่าสนใจที่จะนำมาใช้ในการจัดงาน เบื้องต้นอยู่ระหว่างศึกษาการนำระบบดังกล่าวเข้ามาใช้งาน
** ตั้งตารออีเวนต์
ทั้งนี้บริษัทประเมินทิศทางงานอีเวนต์มีโอกาสจะกลับมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการดูสินค้าจากงานจริง และต้องการบรรยากาศเดิมกลับคืนมา เช่น คอนเสิร์ต เป็นต้น ขณะที่ช่วงปีใหม่ 2565 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคออกมาเคาต์ดาวน์ และรับประทานอาหารในห้างสรรพสินค้าเป็นจำนวนมาก หลังได้รับวัคซีนเข็ม 3 กันแล้ว ทำให้ภาพการจัดงานมีโอกาสจะกลับมาเกิดขึ้น หากไม่มีสถานการณ์รุนแรงในประเทศ
อย่างไรก็ตามการจัดงานแสดงสินค้า บริษัทจะดำเนินการภายใต้ความปลอดภัยและคุมเข้มสูงสุด ทั้งนี้จะผลักดันให้ยอดขายงานอีเวนต์กลับมาอยู่ที่ระดับปกติที่ 600 ล้านบาท จาก 1-2 ปีที่ผ่านมา ยอดขายอีเวนต์ลดลงไปที่ระดับ 300-400 ล้านบาท
“เราอยู่ระหว่างศึกษาการนำดิจิทัลมาใช้ในการจัดอีเวนต์ โดยเราสนใจ Visual และ Metaverse เพราะเป็นระบบใหม่ จะเข้ามาช่วยในการจัดอีเวนต์ แต่เชื่อว่าอีเวนต์จะกลับมาในรูปแบบปกติ หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย”นายวงศกร กล่าว
** ชงบอร์ดลุยแผนปี 65
ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจโดยรวมปี 2565 บริษัทอยู่ระหว่างทำแผน และเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ไม่เกินเดือนมกราคมนี้ ขณะเดียวกันบริษัทประเมินทิศทางธุรกิจและผลประกอบการปี 2565 จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์เต็มตัว หลังจากปี 2564 บริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถึง 7 เดือนเต็ม
สำหรับในปี 2565 บริษัทจะเดินหน้าตกแต่งภายใน (Interiors หรือ INT) เต็มที่ โดยมีงานต่อเนื่องจากปี 2564 เข้ามาจำนวน 3-4 โครงการ อีกทั้งบริษัทได้รับงานตกแต่งภายในจากร้านแบรนด์เนมชื่อดังเข้ามา และคาดจะมีงานเพิ่มเติมต่อจากนี้
นอกจากนี้บริษัทจะพยายามควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้รัดกุม และหางานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นบริษัทคาดจะมีงานประมูลในส่วนของ Interiors ราว 1.37 พันล้านบาท และบริษัทคาดจะได้งานประมาณ 20-25% จากเดิมเฉลี่ยบริษัทได้งานที่ 10-15% เนื่องจากบริษัททำการบ้าน และศึกษาโครงการเข้าประมูลใหม่เป็นอย่างดี
** ปรับเป้ารายได้ลง
นายวงศกร กล่าวต่อว่า รายได้รวมทั้งปี 2564 บริษัทปรับเป้าหมายลดลงเหลือ 850 ล้านบาท จากเดิมที่ 1.15 พันล้านบาท เพราะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ประกอบกับเจอสถานการณ์โควิด-19 ทำให้งานหลายส่วนถูกชะลอไปตามสถานการณ์ ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 บริษัทมีงานในมือ หรือ Backlog อยู่ที่ 374.8 ล้านบาท แบ่งเป็น งาน EMA จำนวน 132.4 ล้านบาท และงาน Interiors จำนวน 242.4 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือเกือบทั้งหมด