สบส.ฟัน "คลินิกดูดไขมัน" ทำสาวดับคาเตียง ครอบครัวติดใจเหตุใดไม่ส่งรพ.
จากกรณีที่อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า น้องสาว อายุ 54 ปี ได้ไปดูดไขมันที่คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา และได้เสียชีวิต ทำให้ครอบครัวติดใจการเสียชีวิตและได้ไปแจ้งความไว้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (22 ก.พ.64) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเสริมความงามย่านรามคำแหง ซึ่งเป็นสถานที่ที่บริการดูดไขมันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต
นพ.ธเรศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบใบอนุญาตของสถานพยาบาล พบว่า เป็นการให้การรักษาคลินิกไม่ตรงเวลาตามที่ขออนุญาตไว้ โดยสถานพยาบาลแห่งนี้ได้ยื่นเปิดคลินิกในเวลา 17.00-20.00 น. แต่จากการตรวจสอบพบว่าให้การรักษาผู้ป่วยในช่วงเวลา 12.00-14.00 น. ซึ่งทางสบส.จะดำเนินการแจ้งความข้อหา ประกอบกิจการสถานพยาบาลไม่ได้รับใบอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีของผู้ป่วยเสียชีวิต สบส.จะทำหนังสือเชิญแพทย์ที่ทำหัตถการให้กับผู้เสียชีวิตไปให้ข้อมูลกับแพทยสภา เพื่อพิจารณาว่าดำเนินการไปตามมาตรฐานวิชีพหรือไม่ เบื้องต้นทราบว่า แพทย์ที่ทำหัตถการ พยายามช่วยฟื้นคืนชีพแต่ไม่สำเร็จ ส่วนที่ลูกของผู้เสียชีวิตตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดทางคลินิกถึงไม่ส่งผู้ตายไป รพ.อย่างเร่งด่วนนั้น ทางคลินิกชี้แจงว่า อยู่ในขั้นตอนระหว่างการส่งต่อ ซึ่งอาการของผู้เสียชีวิตในขณะนั้นไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายเอง
ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตในระหว่างการดูดไขมันนั้น นพ.ธเรศ ระบุว่า การผ่าตัดและการดูดไขมัน เป็นหัตถการรักษาที่มีความเสี่ยง ซึ่งเสี่ยงตั้งแต่การใช้ยา เพื่อทำให้คนไข้ลดความเจ็บปวด เพราะยาบางชนิดอาจทำให้ความดันตก หรือเกิดจากการใช้เครื่องมือสอดเข้าไป หากดูดไขมันออกในปริมานที่มากและรวดเร็ว อาจทำให้ร่างกายช็อกได้
ด้าน บุตรสาวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก พร้อมเปิดเผยว่า มารดาตั้งใจที่จะดูดไขมันบริเวณช่วงด้านหลัง เพราะการออกกำลังกายไม่สามารถกำจัดไขมันที่หลังออกได้ จึงได้ไปปรึกษาที่คลินิกดังกล่าว 2 ครั้งเห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ การันตีผลการรักษาจึงตัดสินใจทำ ในราคาประมาณ 1 แสนกว่าบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสุขภาพของมารดาแข็งแรง ดูแลตัวเองอย่างดี และออกกำลังกายมาสม่ำเสมอ ไม่เคยแพ้ยาแพ้อาหารใดๆ และเคยผ่านการดูดไขมันมาแล้ว ซึ่งในครั้งนั้นไม่เคยมีปัญหาหรืออาการแทรกซ้อนทั้งตอนทำและหลังทำ อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการชันสูตรศพของมารดาอย่างละเอียดถึงสาเหตุการเสียชีวิต โดยจะเก็บร่างมารดาไว้ก่อนยังไม่ทำพิธีทางศาสนา จนกว่าผลการชันสูตรอย่างละเอียดจะแล้วเสร็จ และเป็นที่แน่ชัด
นอกจากนี้ น.ส.อัยมิญห์ ระบุด้วยว่า สิ่งที่ติดใจสงสัยสถานพยาบาลคือทำไมไม่นำตัวมารดาส่งโรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิต ทั้งที่บริเวณใกล้เคียงมีโรงพยาบาลใหญ่ถึง 2 แห่ง ที่ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 5 นาที และให้ตรวจสอบถึงมาตรฐานของสถานที่ อุปกรณ์และบุคลากรในคลินิกได้มาตรฐานหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการเชิญแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในคลินิกนั้นเข้าสอบปากคำไปแล้วทั้งสิ้น 6 ปาก รวมทั้งลูกสาวของผู้เสียชีวิต สำหรับคำให้การนั้นอยู่ในสำนวน ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ยืนยันจะทำสำนวนอย่างรอบคอบให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย