รีเซต

สบส.เผย "ฉีด โบท็อกซ์-ฟิลเลอร์" ทำได้แล้ว

สบส.เผย "ฉีด โบท็อกซ์-ฟิลเลอร์" ทำได้แล้ว
มติชน
1 มิถุนายน 2563 ( 09:29 )
263
สบส.เผย "ฉีด โบท็อกซ์-ฟิลเลอร์" ทำได้แล้ว

 

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยถึงกิจการ/กิจกรรม คลินิกเสริมความงาม ที่ได้รับอนุญาตเปิดในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 โดยจะเปิดให้บริการได้ในวันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไปว่า เป็นข่าวดี สำหรับผู้ที่รักสวยรักงาม เนื่องจากมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 ให้คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม เปิดบริการได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในการเข้ารับบริการ ผู้เข้ารับบริการจะต้องประเมินก่อนว่ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และไม่มีความเสี่ยง และเมื่อเข้ารับบริการจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของสถานที่นั้น เช่น การคัดกรองเบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยของทุกภาคส่วน

 

ส่วนการเสริมความงามบริเวณใบหน้า เช่น ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ก็ทำได้เช่นกัน โดยคลินิกเวชกรรมเสริมความงามจะต้องประเมินตนเอง และดำเนินการตามมาตรการหลักของภาครัฐ เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย การตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การเว้นระยะห่างทางสังคม และระยะเวลาการให้บริการไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมงต่อราย และมาตรการเสริมที่มีความจำเพาะ ในขณะที่ให้บริการจะต้องมีความจำเพาะและความสะอาดในการให้บริการ” ทพ.อาคมกล่าว

 

ทพ.อาคมกล่าวถึงสถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพและสปา ว่า ประเทศไทยมีสถานประกอบการนวด 9,400 แห่ง ร้านสปา 900 แห่ง และนวดเพื่อเสริมความงาม 200 แห่ง รวมทั้งสิ้น 10,500 แห่ง สิ่งสำคัญคือในการเปิดบริการวันที่ 1 มิถุนายน ทุกร้านจะต้องผ่านการลงทะเบียนและประเมินร้านที่เว็บไซต์ สบส. ถึงจะเปิดทำการได้ โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดเตรียมความพร้อม เช่น 1.เตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้รับบริการสวมใส่ขณะรับบริการ 2.เตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 3.อุปกรณ์วัดอุณหภูมิร่างกายทั้งผู้ให้และรับบริการ 4.การแนะนำผู้รับบริการในแนวทางปฏิบัติตนขณะอยู่ในร้าน 5.พนักงานต้อนรับจะต้องเว้นระยะห่างกับผู้รับบริการ และ 6.การบันทึกข้อมูลผู้เข้ารับบริการ ทั้งนี้ ยังงดการบริการอบสมุนไพรหรืออบไอน้ำอยู่

 

ทพ.อาคมกล่าวว่า สำหรับผู้ให้บริการนวด ประเทศไทยมีประมาณ 150,000 คน จะคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนปฏิบัติงาน และพนักงานนวดคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จะต้องผ่านการกักกันในสถานที่ของรัฐ และผู้ให้บริการทุกคนจะต้องไม่มีอาการป่วยใดๆ ก่อนให้บริการ และต้องปฏิบัติตนตามมาตรการที่กำหนดไว้

 

“ผู้ประกอบการจะต้องลงทะเบียนและประเมินร้าน ว่ามีความพร้อมในการให้บริการหรือไม่ ทางเว็บไซต์ของ สบส. โดยเมื่อผ่านกระบวนการทั้งหมดจะได้รับรองจาก สบส.เพื่อนำไปติดที่หน้าร้านของตนเอง พร้อมทั้งลงทะเบียน ไทยชนะ เพื่อให้ผู้รับบริการสแกนคิวอาร์โค้ดเช็กอิน เช็กเอาต์ ประเมินร้านของท่าน ขณะนี้นวดไทยได้รับรางวัลระดับโลกแล้ว เราต้องช่วยกันให้การบริการนี้มีความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ” นพ.อาคมกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง