บุกทลายแหล่งจำหน่ายซิลิโคนถื่อน ขายคลินิกเสริมความงาม

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด นำโดย พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.พฤติการณ์สืบเนื่องจาก กก.4 บก.ปคบ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 สืบทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการทำศัลยกรรมเสริมความงาม ซิลิโคนเสริมจมูก-คาง ที่ไม่ได้ผ่านการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และขายยาไม่มีทะเบียน โดยจำหน่ายผ่านสื่อออนไลน์และจำหน่ายให้สถานพยาบาลเสริมความงามต่าง ๆ จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบถึงสถานที่จัดเก็บและลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จนนำมาสู่การระดมกวาดล้างในครั้งนี้

โดยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก. ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้  เข้าตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจค้น พบผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ได้แก่ ซิลิโคนจมูก-คาง ที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และพบยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี ดังนี้ 

1. ซิลิโคนจมูก จำนวน 13,021 ชิ้น

2. ซิลิโคนคาง จำนวน 1,404 ชิ้น

3. ผลิตภัณฑ์ยา จำนวน 15 รายการ รวม 1,192 ชิ้น

จากการสอบถาม นายเอกสิทธิ์  (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการดูแลสถานที่ตรวจค้น รับว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมด มีไว้เพื่อส่งขายให้กับลูกค้าซึ่งเป็นสถานพยาบาลเสริมความงามต่าง ๆ  และลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านสื่อออนไลน์จริง  โดยผู้จำหน่ายรายนี้ได้ลักลอบขายผลิตภัณฑ์ซิลิโคนเสริมคาง เสริมจมูก ที่ไม่ได้รับอนุญาตผลิต หรือนำเข้าจาก อย. แต่อย่างใด และลักลอบขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาที่ไม่มีทะเบียนตำรับยา โดยลักลอบจำหน่ายซิลิโคนดังกล่าวมาแล้วประมาณ 3 ปี และมีการส่งขายไปยังสถานพยาบาล เสริมความงามต่าง ๆ กว่า 20 แห่ง

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน

1. พ.ร.บ. เครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 

- ฐานขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตฯ ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510

- ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

- ฐาน “ขายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวขอขอบคุณ บก.ปคบ. ที่ขยายผลจากการตรวจค้นสถานที่ลักลอบจำหน่ายซิลิโคนเถื่อนและขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับในครั้งนี้ ซึ่งการปราบปรามในครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยชีวิตประชาชน ทำให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัย เนื่องจากซิลิโคนไม่ว่าจะเป็นซิลิโคนจมูก ซิลิโคนหน้าผาก หรือซิลิโคนคาง ต้องผ่านขบวนการผลิตแบบพิเศษ เรียกว่า Medical Grade Silicone  ซึ่งสะอาด ปลอดเชื้อ เพื่อให้สามารถนำมาใช้กับร่างกายของมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย  ซิลิโคนเสริมความงามจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ต้องผ่านการตรวจสอบและได้รับการอนุญาตจาก อย. เพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัย  หากสถานพยาบาลนำซิลิโคนเถื่อนหรือยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ มาใช้ให้กับผู้รับบริการ ย่อมมีความสุ่มเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกายของผู้รับบริการ ทั้งการอักเสบ ติดเชื้อ ทำให้เสียโฉม หรืออาจถึงขั้นสูญเสียชีวิตได้

จึงขอเตือนไปยังสถานพยาบาลเสริมความงามทุกแห่งให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นหลัก อย่านึกเพียงการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และอย่าหลงเชื่อผู้แทนจำหน่าย ควรตรวจสอบให้มั่นใจทุกครั้งก่อนสั่งซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้สำหรับให้บริการ โดยขอให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมาย โดยผ่านการอนุญาตจาก อย. เท่านั้น จึงจะนำมาใช้ให้บริการในสถานพยาบาลเสริมความงามได้

ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่ www.fda.moph.go.th หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่านEmail:1556@fda.moph.go.th Line@FDAThai, Facebook: FDAThaiหรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดซิลิโคนสำหรับศัลยกรรมเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นจำนวนมาก การศัลยกรรมเสริมจมูกหรือหน้าผากถือเป็นทางเลือกส่วนบุคคลในการเสริมสร้างความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม การนำซิลิโคนที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานมาใช้ในทางการแพทย์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบ การติดเชื้อ และส่งผลกระทบต่อร่างกาย รวมถึงใบหน้า ผู้ผลิตต้องได้รับใบอนุญาตและผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบคุณภาพของคลินิกและซิลิโคนก่อนเข้ารับบริการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง พี่น้องประชนหากพบเห็นการกระทำผิดสามารถแจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค