แพทย์เตือน! "ฉีดโบท็อกซ์" อาจส่งผลข้างเคียงรุนแรง เชื่อมโยงการเกิด"โรคโบทูลิซึม"ได้

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "หมอหมู วีระศักดิ์" เตือนเรื่องการฉีดโบท็อกซ์ เชื่อมโยงต่อการเกิดโรคโบทูลิซึม โดยระบุว่า

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหราชอาณาจักรกำลังสืบสวนกรณีผู้ป่วยโรคโบทูลิซึมที่เชื่อมโยงกับการฉีดโบท็อกซ์ใน County Durham และ Darlington โดยมีผู้ป่วย 14 รายที่ประสบอาการข้างเคียงรุนแรง เช่น หนังตาตกและมองเห็นภาพซ้อน ในจำนวนนี้ 10 รายจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาล

อาการของผู้ป่วยเริ่มปรากฏขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากการฉีด และถึงแม้การค้นพบเบื้องต้นจะบ่งชี้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนไม่ใช่สาเหตุ แต่สาเหตุที่แท้จริงยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน เจ้าหน้าที่ได้ออกประกาศเตือนผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์ในท้องถิ่นให้เฝ้าระวังอาการที่คล้ายคลึงกันในผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการทำหัตถการด้านความงามที่คล้ายคลึงกัน

Allergan Aesthetics ซึ่งเป็นผู้ผลิต Botox ได้รับทราบถึงกรณีที่น่าสงสัยเหล่านี้และกำลังให้ความร่วมมือกับการสอบสวน ทางบริษัทตั้งข้อสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ปลอมอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการได้รับการรักษาของแท้จากผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียง ผู้ที่เพิ่งได้รับการทำหัตถการที่คล้ายคลึงกันและมีอาการ เช่น พูดลำบาก ควรติดต่อบริการฉุกเฉินทันที เนื่องจากมีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ผลข้างเคียงที่รุนแรงของการฉีดโบท็อกซ์ (พบน้อยมากแต่ควรระวัง)

1. อาการของโรคโบทูลิซึม (Botulism) แม้จะพบน้อยมากจากการฉีดเพื่อความงาม แต่เป็นภาวะที่รุนแรงหากสารพิษแพร่กระจายไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงในวงกว้างขึ้น เช่น กลืนลำบาก พูดไม่ชัด หายใจลำบาก ตาพร่ามัว หนังตาตก อาการเหล่านี้เกิดจากสารพิษไปยับยั้งการทำงานของเส้นประสาทในระบบอื่น ๆ ของร่างกาย อาการสามารถเกิดได้แม้กับบริเวณที่ไม่ได้อยู่ใกล้เคียงกับจุดที่ฉีดโบท็อกซ์ กรณีที่เกิดขึ้นมักเชื่อมโยงกับการใช้ผลิตภัณฑ์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน หรือการฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความรู้ความชำนาญ

2. การติดเชื้อ หากคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด หรือมีการปนเปื้อน

3. การดื้อยา (Botox Resistance) เกิดจากการฉีดบ่อยเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารโบท็อกซ์ ทำให้การฉีดครั้งต่อไปไม่ได้ผล

ข้อควรพิจารณาก่อนฉีด

1. เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้กายวิภาคและเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง

2. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง สะอาด ปลอดภัย

3. ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์แท้ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ทั้งในและต่างประเทศ

4. ผู้ที่ไม่ควรฉีด หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่แพ้สาร Botulinum toxin ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ

ปล. ข้อมูลทั้งหมดที่ผมนำเสนอมีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจนและผมได้พยายามอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่บางครั้งอาจมีการโต้แย้งในข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในแวดวงวิชาการ ดังนั้นจึงขอเรียนทุกท่านว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความของผม และควรหาข้อมูลเพื่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง ด้วยนะครับ