อีลอน มัสก์ได้รับจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินทั้งสิ้น 185 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6,350,000 ล้านบาท
วันที่ 7 มกราคม 2021 อีลอน มัสก์ได้รับจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินทั้งสิ้น 185 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6,350,000 ล้านบาท และปัจจุบันอีลอน มัสก์ยังคงรั้งตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอยู่ ความสำเร็จดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญแต่มาจากการทำงานหนักวันละ 12 ชั่วโมง ใช้เวลานอนเฉลี่ย 6 ชั่วโมงต่อวัน จำนวนดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยอีลอน มัสก์เอง แม้ภาพลักษณ์ภายนอกเมื่อปรากฏต่อสื่อมวลชนอีลอน มัสก์ดูเหมือนคนธรรมดาที่วางตัวง่าย ๆ แต่ชายผู้นี้ทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา
บริษัท Zip2 ในระหว่างปี 1995 - 1999
บริษัทแรกของอีลอน มัสก์ พัฒนาซอฟต์แวร์เกี่ยวกับการเดินทางแผนที่และสมุดหน้าเหลือง ข้อมูลการติดต่อ อีลอน มัสก์เขียนโค้ดโปรแกรมด้วยตัวเอง 3 เดือน บริษัทก่อตั้งขึ้นโดยอีลอน มัสก์และน้องชาย มัสค์ คิมบาล และเพื่อนอีกหนึ่งคน โดยใช้สำนักงานเล็ก ๆ ในเมืองปาโลอัลโต บริษัทเติบโตไปพร้อมกับการมาถึงของยุคอินเทอร์เน็ต ก่อนขายกิจการบริษัทให้กับคอมแพคคอมพิวเตอร์ (Compaq Computer) ในปี 1999 และอีลอน มัสก์ได้ส่วนแบ่งหุ้น 7% ของบริษัท
บริษัท PayPal ในระหว่างปี 2000 - 2002
ในช่วงแรกอีลอน มัสก์ก่อตั้งบริษัทชื่อว่า x.com ให้บริการทางการเงินออนไลน์ การนำบริษัทไปควบกิจการกับบริษัท Confinity ก่อนเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Paypal ในปี 2001 ก่อนจะขายกิจการให้กับบริษัทอีเบย์ในปี 2002 โดยอีลอน มัสก์ได้ส่วนแบ่งหุ้น 11.72% ของบริษัทหรือประมาณ 175.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งอีลอน มัสก์ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงทุนในธุรกิจอวกาศ SpaceX ในเวลาต่อมา
บริษัท SpaceX ในระหว่างปี 2002 - ปัจจุบัน
บริษัทที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอีลอน มัสก์ ด้วยแนวคิดด้านเทคโนโลยีอวกาศแบบใหม่ การพัฒนาจรวดรุ่นใหม่ ยานอวกาศรุ่นใหม่ที่สามารถนำกลับมาใช้งานซ้ำได้ทำให้ไม่มีบริษัทไหนสามารถขนส่งยานอวกาศหรือจรวดโดยใช้ต้นทุนที่แข่งกับบริษัท SpaceX นอกจากนี้บริษัทยังมีเป้าหมายก่อตั้งอาณานิคมบนดาวอังคารและขนส่งมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศเพื่อทำภารกิจรูปแบบต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีความท้าทายสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศให้ไปถึงจุดดังกล่าว
บริษัท Tesla ในระหว่างปี 2004 - ปัจจุบัน
บริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก ในช่วงเริ่มแรกอีลอน มัสก์เข้ามาในบริษัท Tesla ในรูปแบบนักลงทุนคนสำคัญก่อนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แม้บริษัทนี้ไม่ได้ก่อตั้งโดยอีลอน มัสก์ แต่อีลอน มัสก์เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญทำให้บริษัทเติบโตจนเป็นบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานในสหรัฐอเมริกา 2 แห่ง และโรงงาน 1 แห่ง ในประเทศจีนและโรงงานใหม่ล่าสุด 1 แห่ง ในประเทศเยอรมนี เทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัท Tesla รวมไปถึงรูปแบบวิธีการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังนำหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์เข้ามาทำงานกลายเป็นเรื่องราวที่น่าติดตามมากที่สุดเรื่องหนึ่งในโลกเทคโนโลยี
บริษัท SolarCity ในระหว่างปี 2006 - ปัจจุบัน
บริษัทด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จัดเก็บในแบตเตอรี ปัจจุบันบริษัทกลายเป็นบริษัทลูกของ Tesla โรงงานผลิตอยู่ในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก
บริษัท Neuralink ในระหว่างปี 2016 - ปัจจุบัน
บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมองเข้ากับคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ปัจจุบันบริษัทสามารถพัฒนาเชื่อมต่อสมองของสัตว์ทดลอง เช่น ลิงและหมูเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้สำเร็จแต่ยังไม่สามารถทดสอบในมนุษย์
บริษัท The Boring Company ในระหว่างปี 2016 - ปัจจุบัน
บริษัทพัฒนาระบบขนส่งใต้ดินที่มีความซับซ้อนหลายชั้นสามารถเดินทางด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยความรวดเร็วแก้ไขปัญหารถติดของเมืองใหญ่ การขุดอุโมงค์ทำได้รวดเร็วและมีต้นทุนน้อยกว่าสร้างทางด่วน
OpenAI ในระหว่างปี 2015 - ปัจจุบัน
OpenAI อยู่ในรูปของบริษัทวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีเป้าหมายพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับมนุษย์
Twitter ในระหว่างปี 2022
อีลอน มัสก์เข้าซื้อกิจการ Twitter ด้วยมูลค่า 1,500,000 ล้านบาท นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้งานที่มีผู้ติดตามกว่า 85 ล้านคน การเข้าซื้อกิจการ Twitter กลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้อีลอน มัสก์ได้ใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อเข้าซื้อกิจการในขณะที่มีแรงต่อต้านจากคณะกรรมการบริหารชุดเก่าออกมาเป็นระยะ ภายหลังการเข้าซื้อกิจการสำเร็จอีลอน มัสก์ต้องการทำให้ Twitter กลายเป็นเหมือนจัตุรัสบนโลกดิจิทัลกลางเมืองที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีเสรีภาพในการพูดและแสดงความคิดเห็น ซึ่งอีลอน มัสก์อธิบายเพิ่มเติมว่ามันเป็นพื้นฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
ที่มาของข้อมูล startupsventurecapital.com