รีเซต

ไม่ไหว! "Tesla" เสียแชมป์ในสหรัฐฯ ร่วงต่ำสุดรอบ 8 ปี

ไม่ไหว! "Tesla" เสียแชมป์ในสหรัฐฯ ร่วงต่ำสุดรอบ 8 ปี
TNN ช่อง16
10 กันยายน 2568 ( 14:33 )
15

บริษัท Tesla ของอีลอน มัสก์ กำลังเผชิญแรงกดดันหนักในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ หลังข้อมูลจากบริษัทวิจัย Cox Automotive ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดของ Tesla ในเดือนสิงหาคมลดลงเหลือเพียงร้อยละ 38 ต่ำกว่าร้อยละ 40 เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ8 ปี นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่ Tesla เริ่มเร่งการผลิต Model 3 รถซีดานไฟฟ้ารุ่นแรกที่ทำตลาดวงกว้าง

การลดลงครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดจากค่ายรถยนต์คู่แข่ง ที่เร่งออกโปรโมชั่น ลดราคา และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ซื้อ เช่น การผ่อนแบบดอกเบี้ย 0% หรือแถมบริการชาร์จไฟฟ้าฟรี เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนสิทธิ์ เครดิตภาษี EV มูลค่า 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ จะสิ้นสุดในเดือนกันยายนนี้

แม้ Tesla มียอดขายในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 และ ร้อยละ 3.1 ตามลำดับ แต่ก็ยังเติบโตช้ากว่าตลาดรวมที่ขยายตัวถึงร้อยละ 14 ทำให้ส่วนแบ่งตลาดถูกกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลในเดือนกรกฎาคมชี้ว่า Tesla มีส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ 42 ลดลงจากร้อยละ 48.7 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการร่วงแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021

สาเหตุสำคัญมาจากการที่ Tesla ขาดการเปิดตัวรถรุ่นใหม่มานาน รุ่นล่าสุดคือ Cybertruck ที่เปิดตัวในปี 2023 แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับ Model 3 และ Model Y รถยอดนิยมก่อนหน้านี้ แม้ Model Y จะมีการปรับโฉม แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงดึงดูดได้เพียงพอ จนทำให้ Tesla กำลังเข้าสู่ปีที่สองติดต่อกันของยอดขายที่หดตัว

นักวิเคราะห์ชี้ว่า Tesla กำลังเผชิญทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการ ลดราคาหนักเพื่อพยุงยอดขาย ซึ่งบั่นทอนกำไร หรือรักษาระดับราคาและยอมสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไป ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่ดั้งเดิมอย่าง Hyundai, Honda, Kia และ Toyota สามารถเพิ่มยอดขายรถไฟฟ้าได้ระหว่าง 60 ถึง 120% ในเดือนกรกฎาคมด้วยแรงจูงใจที่มากกว่า Tesla

ขณะเดียวกัน ปัจจัยด้านภาพลักษณ์ก็ส่งผลต่อ Tesla ด้วยเช่นกัน การมีส่วนร่วมทางการเมืองฝั่งขวาของอีลอน มัสก์ และความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกมองว่าทำให้แบรนด์เสียความนิยมในหมู่ผู้บริโภคบางกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม Tesla ยังคงพยายามสร้างอนาคตใหม่ด้วยการลงทุนใน หุ่นยนต์และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (robotaxis) โดยบอร์ดบริหารเสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนให้มัสก์มูลค่ามหาศาลถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ผูกกับเป้าหมายการดันมูลค่าตลาดของ Tesla ให้แตะ 8.5 ล้านล้านดอลลาร์ ในอีก 10 ปีข้างหน้า

แต่ในระยะสั้น ความท้าทายของ Tesla ยังคงอยู่ที่ธุรกิจหลักด้านยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่สุด หากไม่สามารถสร้างโมเดลใหม่ที่ดึงดูดผู้บริโภคได้ Tesla อาจต้องยอมเห็นส่วนแบ่งตลาดร่วงต่อเนื่อง และสูญเสียความเป็นผู้นำในตลาดรถไฟฟ้าที่ตัวเองเคยครองมาอย่างยาวนาน 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง