รีเซต

[Guide] รวมแนวทางสำหรับมือใหม่ก่อนเริ่มเล่น Baldur’s Gate 3

[Guide] รวมแนวทางสำหรับมือใหม่ก่อนเริ่มเล่น Baldur’s Gate 3
แบไต๋
26 สิงหาคม 2566 ( 14:22 )
103
[Guide] รวมแนวทางสำหรับมือใหม่ก่อนเริ่มเล่น Baldur’s Gate 3

Baldur’s Gate 3 กลายเป็นเกมที่เปิดตัวได้อย่างยิ่งใหญ่และมาแรงที่สุดเกมหนึ่งในปี 2023 กระแสของเกมอาจทำให้หลายคนอยากลองเล่นบ้าง แม้จะยังไม่เคยเล่นเกมในแฟรนไชส์นี้หรือไม่เคยสัมผัสกับโลกของ D&D มาก่อนก็ตาม แต่ด้วยระบบเกมที่หลากหลาย โลกที่กว้างใหญ่ เรื่องราวสุดเข้มข้นและระบบปฏิสัมพันธ์กับ NPC ที่ซับซ้อน อาจทำให้มือใหม่รู้สึกสับสนว่าควรเริ่มยังไงหรือทำอะไรก่อนหลังดี เราจึงได้รวบรวมทิปเกมดี ๆ ที่ช่วยให้เริ่มเล่นเกมได้อย่างราบรื่น พร้อมปูพื้นฐานสู่การเดินทางในโลก Forgotten Realms อย่างมืออาชีพต่อไปในอนาคต

คำเตือน – อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาเกมบางส่วนในบทความนี้

สำรวจบริเวณที่ยาน Nautiloid ตกให้ละเอียด 

หลังจากยาน Nautiloid ของ Mind Flayer ตก เราจะฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง แต่ไม่ต้องห่วง เพราะเมื่อเดินสำรวจไปเรื่อย ๆ ก็จะพบเพื่อนร่วมทีมคนแรกของเราอย่าง Shadowheart นอนสลบอยู่ หลังจากปลุกเธอและพูดคุยกันสักพักก็จะสามารถชวนเธอกลับมาร่วมทีมได้เหมือนเดิม

จากนั้นอย่าลืมเดินสำรวจบริเวณรอบ ๆ ให้ละเอียด เราจะเจอไอเทมที่มีประโยชน์หลายอย่าง และเมื่อเดินผ่านตัวยานที่ตก (ตรงนี้อาจมีการเข้าสู่โหมดต่อสู้ด้วย เตรียมพร้อมให้ดี) ก็จะได้พบกับ Astarion และจากนั้นเราจะได้พบกับ Gale ที่ติดอยู่ในประตูมิติ หากเราช่วยเขาออกมาทีมหรือปาร์ตี้ของเราก็จะมีครบ 4 คนพอดี

หลังจากช่วย Gale ออกมาจากประตูมิติแล้ว เมื่อเราเดินตามเส้นทางไปทางเหนือเรื่อย ๆ เราจะได้พบกับ Lae’zel ที่ถูกคุมขังอยู่ไม่ไกล ให้เข้าไปพูดคุยกับ Tiefling ที่อยู่ตรงนั้นก่อนเราถึงจะช่วยเธอได้ แต่เพราะสมาชิกในทีมของเราเต็มแล้ว ให้เลือกส่งเธอไปที่แคมป์ก่อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งอื่นที่อาจจำเป็น

เมื่อได้ Lae’zel มาร่วมทีมแล้วให้เดินย้อนกลับมาจะได้ยินเสียงตะโกนอยู่บริเวณประตูขนาดใหญ่ ก่อนที่เราจะเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้กับก็อบลิน ที่นั่นเราจะได้พบกับ Wyll the Warlock ซึ่งเราสามารถชวนเขาเข้าร่วมทีมได้ และสมาชิกคนสุดท้ายที่เราจะได้พบหลังจากนี้ก็คือ Karlach แต่ไม่ต้องรีบร้อนเพราะตอนนี้เราจะมีเพื่อนร่วมทีมมากพอให้สับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมกับการเดินทางในแต่ละครั้ง

หาทางคุยกับสัตว์และคนตายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

รู้มั้ยว่าการพูดคุยกับบรรดาสัตว์ต่าง ๆ ได้นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด บางครั้งข้อมูลสำคัญก็มาจากบรรดาน้อง ๆ เหล่านี้นี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เราไม่สามารถหาได้จากการพูดคุยกับ NPC ทั่วไป ความลับต่าง ๆ หรือแม้แต่การชักชวนพวกมันมาร่วมทีม หรือจะลองโน้มน้าวให้พวกมันต่อสู้กับเจ้านายของตัวเองก็ได้ (โดยเฉพาะเมื่อเจ้านายของมันกำลังจะฆ่าเรา) ดังนั้นอย่าลืมที่จะเรียนเวท Speak with Animals ติดตัวไว้ล่ะ

ส่วนการคุยกับเหล่าคนตายก็มีประโยชน์เช่นกัน บางครั้งเราอาจจะได้รู้ข้อมูลสำคัญของภารกิจนั้น รู้อันตรายที่อาจรออยู่ข้างหน้า หรือแม้แต่การเผยเวทมนต์ลับ เพราะฉะนั้นถ้าตัวละครของเราสามารถเรียนรู้เวทที่ช่วยให้คุยกับสัตว์และคนตายได้ก็ลองศึกษาเอาไว้บ้าง แต่ถ้าตัวเราเรียนเวทนี้ไม่ได้ก็ลองให้เพื่อนร่วมทีมเรียนรู้ทักษะนี้ติดตัวเอาไว้ หรือจะใช้ไอเทมในเกมช่วยก็ได้ โดยใช้ไอเทม Amulet of Lost Voices ที่สามารถหาได้จากห้องลับที่ซ่อนอยู่หลังรูปปั้นขนาดใหญ่ทางเหนือของ Dank Crypt ซึ่งเป็นที่ตั้งโลงศพของ Withers นั่นเอง

Withers – NPC สารพัดประโยชน์

เราสามารถพบ Withers ได้ที่ Dank Crypt เขาปรากฎตัวในร่างของซากหุ้มกระดูกที่ดูลึกลับและน่าสะพรึงกลัว แต่หลังจากได้พบและพูดคุยกับเขาแล้ว เขาจะมาอยู่ประจำที่แคมป์ของเรา เราสามารถจ่ายเหรียญทองให้เขาเพื่อเปลี่ยนไปเล่นคลาสอื่นได้ หรือสามารถเพิ่มเพื่อนร่วมทางให้มากขึ้นได้แม้พวกเขาจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวหลักก็ตาม

โลงศพของ Withers อยู่ในห้องลับหลังรูปปั้นขนาดใหญ่ใน Dank Crypt โดยทางเข้าจะอยู่ที่ซากปรักหักพังแห่งแรกที่เราพบ ให้หาทางพังก้อนหินให้ร่วงลงมาที่พื้นจนแตกและเข้าสู่ Dank Crypt ผ่านทางนั้น หรือหากเดินตามทางไปเรื่อย ๆ ก็จะพบโครงกระดูกและทางเข้าที่มีประตูไม้ปิดตายอยู่ เราสามารถใช้ Thieve’s Tools ปลดล็อกได้ หากทอยลูกเต๋าผ่านก็สามารถเข้าสู่ Dank Crypt ผ่านทางนี้ได้เช่นกัน

อย่าลืมว่าเราสามารถเซฟเกมได้เกือบทุกที่

แน่นอนว่าเกมนี้เล่นเพลินจนทำให้เราลืมเวลา แต่สิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือห้ามลืมเซฟเกม! โดยเราสามารถเซฟได้เกือบทุกที่และทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะก่อนเลือกบทสนทนา ก่อนเข้าสู่การต่อสู้ ก่อนทำการ Skill check (ทอยเต๋าเพื่อดูว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง)

เพราะเนื้อเรื่องของเกมมีความเข้มข้น ทุกบทสนทนาส่งผลต่อเกมและความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้การทอยเต๋าก็ส่งผลต่อการเล่น รวมถึงการต่อสู้แบบเทิร์นเบสที่เข้มข้น ดังนั้นอย่าลืมเซฟให้บ่อยที่สุดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจจะดีกว่า

เราสามารถเปิดโหมดเทิร์นเบสนอกเหนือจากการต่อสู้ได้

ปกติแล้วเมื่อไม่ได้อยู่ในโหมดต่อสู้ การเดินทางของเราจะเป็นแบบเรียลไทม์ แต่เราสามารถปรับให้เป็นแบบเทิร์นเบสได้โดยการกดที่ปุ่มนาฬิกาทรายที่มุมขวาของแถบแอ็กชัน (Enter Turn-Based Mode) ประโยชน์ของการเข้าสู่โหมดนี้ระหว่างเดินทางจะช่วยให้เราหลบซ่อนจากศัตรูได้ดีกว่าในกรณีที่เราไม่อยากดึงความสนใจของพวกมัน นอกจากนี้เมื่อต้องผ่านเส้นทางที่มีกับดักก็ทำให้เราควบคุมสมาชิกในทีมได้ดีกว่าด้วย

เวท ‘Guidance’ คือเพื่อนแท้

เมื่อต้องทำการทอยลูกเต๋าเพื่อทำการ Skill check หากเราหรือเพื่อนมีสกิล Guidance อยู่ล่ะก็เตรียมยิ้มรอได้เลย เพราะสกิลนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทอยเต๋าให้สำเร็จมากขึ้น ด้วยการเพิ่ม +1d4 หรือลูกเต๋า 4 หน้า 1 ลูก และค่าที่ทอยได้จะกลายเป็นโบนัสให้กับการทอยลูกเต๋าเพื่อทำ Skill check ของเรา ถือว่ามีประโยชน์มากในสถานการณ์สำคัญ เช่น การปลดล็อกประตู หรือการพูดคุยในสถานการณ์ต่าง ๆ เพราะอย่างน้อยก็อุ่นใจได้ว่ามีลูกเต๋า 4 หน้ามาช่วยเพิ่มโอกาสในการทำสำเร็จ

ไม่จำเป็นต้องตัวติดกับเพื่อนร่วมทีมตลอดเวลา

เราไม่จำเป็นต้องตัวติดกับเพื่อนร่วมทีมตลอดเวลา บางครั้งเราสามารถแยกตัวออกมาเดินทางคนเดียว หรือเลือกเดินทางโดยไม่มีสมาชิกคนใดคนหนึ่งก็ได้ (โดยให้พวกเขาไปรออยู่ที่แคมป์) หรือในบางสถานการณ์ เราสามารถสั่งให้เพื่อนร่วมทีมรออยู่ที่ใดที่หนึ่ง แล้วส่งสมาชิกในทีมที่เป็น Rogue ไปล้วงกระเป๋า หรือส่งคนที่มีค่าความแข็งแกร่งสูง ๆ กระโดดข้ามหน้าผาเพื่อไปเปิดหีบสมบัติลับก็ได้

สามารถดึงคันโยกหรือกดปุ่มต่าง ๆ ด้วยลูกธนู

ในการเดินทาง บางครั้งเราอาจต้องดึงคันโยกหรือกดปุ่มต่าง ๆ เพื่อให้กลไกทำงาน ซึ่งบางครั้งคันโยกและปุ่มเหล่านั้นอาจอยู่ในตำแหน่างที่เข้าถึงยาก แต่ไม่ต้องห่วง เพราะเราสามารถเปิดกลไกเหล่านี้ได้ด้วยการยิงธนู ข้อดีก็คือการยิงเป้าหมายที่ไม่มีชีวิตโอกาสยิงโดนจะอยู่ที่ 100%

พกพลั่วติดตัวเสมอ

พลั่วเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ เพราะเวลาเดินทางบางครั้งเราอาจต้องขุดค้นเนินดินลึกลับที่น่าสงสัย เพื่อตรวจดูว่ามีหีบสมบัติลับซ่อนตัวอยู่เปล่า โดยเราจะได้พลั่วมาฟรี ๆ ตอนเจอกับเนินดินที่มีพลั่วปักอยู่ระหว่างทางหลังจากการสำรวจซากยาน Nautiloid หลังจากนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน อย่าลืมพกพลั่วติดตัวไปด้วยล่ะ

การต่อสู้ไม่จำเป็นต้องจบด้วยความรุนแรง…เจรจาสิ

บางคนอาจชื่นชอบการต่อสู้ทุกครั้งที่มีโอกาส แต่สำหรับบางคนเราก็ไม่ได้อยากสู้มากมายขนาดนั้น เพราะฉะนั้นระหว่างเดินสำรวจเรื่องราวภายในเกม หากพบว่ามีความเสี่ยงที่ต้องเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ เราอาจเลือกหนทางของการเจรจาหรือเลือกบทสนทนาให้ดีเพื่อจบความขัดแย้งแบบสันติวิธีได้

โดยเราสามารถเลือกบทสนทนาประเภทข่มขู่ โน้มน้าวใจ หรือล่อหลอกศัตรูก็ได้ แต่ต้องระวังให้ดีเพราะการเลือกบทสนทนาเหล่านี้มักตามมาด้วยการทอยเต๋าเพื่อทำ Skill check

ลองเริ่มจากการเป็นนักกวีดูมั้ยล่ะ

ทุกคลาสมีคุณสมบัติเด่นแตกต่างกันออกไป แต่ถ้ากำลังมองหาคลาสสารพัดประโยชน์ที่เหมาะกับคนอยากทำอะไรหลากหลาย นักกวี (Bard) ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะย่องเบาก็ได้ ร่ายเวทก็ดี เพิ่มความสามารถให้เพื่อนร่วมทีมด้วยการร้องเพลงก็เด่น ส่วนใครเลือกคลาสรองเป็น College of Valor หรือ College of Swords ก็สามารถออกไปมีซีนบู๊เท่ ๆ ได้ด้วย

ส่วนใครอยากหาเหรียญทองแบบง่าย ๆ ก็แค่หยิบเครื่องดนตรีคู่ใจมาแสดงดนตรีในเมืองเพื่อให้ฝูงชนมารวมตัวกัน นอกจากพวกเขาจะเต้นรำอย่างสนุกสนานแล้ว พวกเขายังจ่ายเหรียญทองเป็นค่าตอบแทนให้เราด้วย ถึงจะไม่ได้เงินเยอะแบบการลงดันเจี้ยน แต่เราก็ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตไปเจอกับสัตว์ประหลาดหรือกับดักมากมายยังไงล่ะ

และนี่ก็คือแนวทางเริ่มต้นพื้นฐานสำหรับมือใหม่ในการเล่น Baldur’s Gate 3 เชื่อว่าใครไม่เคยเล่นเกมแฟรนไชส์นี้หรือไม่เคยเล่น D&D มาก่อนอาจมึน ๆ งง ๆ แต่เมื่อเล่นไปสักพักระบบเกมจะค่อย ๆ สอนและทำให้เราเข้าใจวิธีการเล่นมากขึ้น จากนั้นเราจะสามารถสนุกไปกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและโลกอันกว้างใหญ่ใน Baldur’s Gate 3 ได้อย่างแน่นอน

ที่มา: PC Gamer

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง