รีเซต

ผู้ปกครองโวย ครูรร.ดังกาฬสินธุ์ ทำเกินเหตุ ตบหน้า-บ้องหูลูกชาย เหตุทรงผมผิดระเบียบ

ผู้ปกครองโวย ครูรร.ดังกาฬสินธุ์ ทำเกินเหตุ ตบหน้า-บ้องหูลูกชาย เหตุทรงผมผิดระเบียบ
มติชน
13 สิงหาคม 2563 ( 14:44 )
192

ผู้ปกครองนักเรียนชายชั้น ม.5 โรงเรียนชื่อดังในอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์โวยลั่นลูกชายถูกครูตบหน้าและบ้องหู พร้อมระบุทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ ด้านครูฝ่ายปกครองยอมรับทำจริง แต่ไม่ได้ตบแรง เพียงแต่ตบเบาๆ อบรมสั่งสอนตามหน้าที่ครู เนื่องจากทรงผมผิดระเบียบ และว่ากล่าวตักเตือนแต่เด็กกลับไม่เถียงไม่ยอมฟังซ้ำยังจะชกกลับ

 

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีผู้ใช้เฟชบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ข้อความ ระบุว่า ลูกชายถูกครูในโรงเรียนตบหน้าและบ้องหู คาดว่าสาเหตุเกิดทรงผมผิดระเบียบ ซึ่งผู้ปกครองรายดังกล่าวมองว่าเป็นการกระทำเกิดกว่าเหตุหรือไม่

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ น.ส.อุ่นเรือน  อายุ 37 ปี อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นคนที่โพสต์และเป็นแม่ของนายภาคิน อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์

 

นายภาคิน อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเลิกแถว มีครูผู้ชายฝ่ายปกครองเรียกให้ไปหา บอกว่าทรงผมรองทรงที่ตัดอยู่ผิดระเบียบ ให้ไปตัดแก้มาใหม่ ซึ่งตนก็ถามว่าให้แก้เป็นทรงอะไร แต่ครูกลับบอกว่าไม่ต้องมาเถียง และพูดว่าตบนักเรียนก่อนเกษียณดีไหม จากนั้นครูฝ่ายปกครองก็ได้ตบเข้าที่ใบหน้าและหูของตน 1 ครั้ง จนหูเอื้อ หลังเกิดเหตุได้ไปถามผู้อำนวยการโรงเรียนว่าการกระทำดังกล่าวรุนแรงไปหรือไม่ และกลับไปที่บ้านและเล่าเหตุการณ์ให้แม่ฟัง

 

 

ด้าน น.ส.อุ่นเรือน อายุ 37 ปี แม่นายภาคิน อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนได้พาลูกชายไปตรวจร่างกาย เนื่องจากมีอาการหูอื้อ และปากแตก พร้อมกับเข้าลงบันทึกแจ้งความไว้ที่สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และโพสต์ในเฟชบุ๊ก ก่อนที่ต่อมาจะมีการติดต่อกับผู้บริหารและครูที่ตบบ้องหูและหน้าลูกชาย เพื่อพูดคุยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครูบอกว่าจะจ่ายเงินทำขวัญให้กับเด็กจำนวน 3,000 บาท แต่อยู่ๆกลับยกเลิกการพูดคุย และบอกว่าจะไม่คุยหรือเจรจาอีกต่อไป เพราะตนไปโพสต์เฟชบุ๊กก่อน และล่าสุดได้ครูคนดังกล่าวได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับตนเป็นเงิน 300,000 บาท

 

น.ส.อุ่นเรือน กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวตนอยากขอความเป็นธรรม เนื่องจากกระทำของครูนั้นเป็นการทำที่รุนแรงหรือเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งลูกชายอยู่ชั้น ม.5 ได้ตัดผมรองทรง ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นไปตามที่กระทรวงออกมาอย่างถูกต้อง แต่ถ้าหากผิดระเบียบจริงๆครูก็ไม่น่าจะลงโทษทำรุนแรงโดยการตบเข้าไปหน้าและบ้องหูเด็ก น่าจะตักเตือนก่อน หรือจะลงโทษโดยการทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติหรือทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็ได้ ไม่ควรที่จะรุนแรงเช่นนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุนอกจากจะไม่มีการพูดคุยแล้วยังมีการฟ้องร้องครอบครัวของตนที่ถูกกระทำอีกด้วย อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวตนได้เข้าขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง