ปลดล็อก "กัญชา" เปิดเงื่อนไขปลูกกัญชา ถูกกฎหมาย 2565 ทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง?
ปลดล็อกกัญชา ปลูกกัญชาเสรี 9 มิถุนายน 2565 โดยประชาชนสามารถ ปลูกกัญชา กัญชง ไม่ต้องขออนุญาต แค่จดแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน "ปลูกกัญ" และและเว็บไซต์ http://plookganja.fda.moph.go.th ของ อย.ซึ่งการปลดล็อกครั้งนี้ ทำให้สามารถปลูกกัญชา ถูกกฎหมาย และสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาได้มากมาย แต่ตามกฎหมายยังมีบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้ เช็กที่นี่!
ผู้ที่ต้องการปลูกกัญชา กัญชง สามารถปลูกได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่จะต้องมีการจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ปลูกกัญ ของ อย. ที่จัดทำขึ้นและสามารถถอนการจดแจ้งได้เมื่อพบการกระทำความผิดที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ การจดแจ้งแอปพลิเคชันปลูกกัญนั้นเป็นไปเพื่อรักษาสิทธิของผู้ปลูกก่อนที่ พ.ร.บ.กัญชากัญชงจะประกาศบังคับใช้ โดยแจ้งตามวัตถุประสงค์การปลูก ซึ่งการปลดล็อกนี้จะทำให้ประชาชนสามารถปลูกเพื่อดูแลสุขภาพของตนเองและใช้ในครัวเรือน เพื่อนำไปใช้ในการปรุงยาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายของกรณีที่เป็นแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน และเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์หรือในทางอุตสาหกรรมได้
ที่มาประกาศปลดล็อกกัญชา-กัญชง พ้นยาเสพติด
หลังกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ทำการปลดล็อกให้พืชกัญชาและพืชกัญชง พ้นจากความเป็นยาเสพติด เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ในการรักษาตั้งแต่ระดับครัวเรือน พร้อมกับสนับสนุนให้กัญชา-กัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีการควบคุมการผลิตสารสกัดที่มีคุณภาพมาตรฐานและมีมาตรการป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด ต่อมาองค์การอาหารและยา (อย.) ได้จัดทำประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 ซึ่งจะปลดล็อกทุกส่วนกัญชา-กัญชง ออกจากความเป็นยาเสพติดอย่างสิ้นเชิง ยกเว้นสารสกัดของกัญชาที่มีค่า THC เกิน 0.2% จะยังถือว่าเป็นสารเสพติด จะมีการควบคุม ทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นประกาศนี้ถูกลงนามโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล และถูกประกาศลงในราชกิจจานุเษกษาเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ให้มีผลบังคับใช้จากนั้น 120 วัน ซึ่งก็คือวันที่ 9 มิถุนายน 2565
เปิดเงื่อนไขปลูกกัญชา ถูกกฎหมาย 2565 ทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง?
สิ่งที่ทำได้หลังประกาศ "ปลดล็อกกัญชา"
- ประชาชนสามารถปลูกกัญชา-กัญชง ภายในบริเวณบ้านเรือน เพื่อประโยชน์ในการรักษาและดูแลสุขภาพได้ จะปลูกกี่ต้นก็ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่จดแจ้งผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ที่ชื่อว่า “ปลูกกัญ”
- ปลูกในเชิงพาณิชย์ หรือปลูกเพื่อขายได้ แต่ต้องขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขก่อนปลูก ผ่านทางเว็บไซต์และแอปฯ “ปลูกกัญ”
- การนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชา กัญชง ส่วนอื่นๆ ของพืช เช่น ช่อดอก ใบ กิ่ง ก้าน ไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด แต่ต้องขออนุญาตนำเข้าตาม พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และ พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 และหากเป็นสารสกัดที่นำเข้าจากต่างประเทศ จัดเป็นยาเสพติดให้โทษ ต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด
- การนำส่วนต่างๆ ของกัญชาไปใช้ทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สามารถทำได้ แต่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายและดำเนินการตามคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น อาหารต้องทำตาม พ.ร.บ.อาหาร ยาต้องทำตาม พ.ร.บ.ยา และเครื่องสำอางต้องทำตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ถึงจะเป็นผลิตภัณฑ์กัญชา- กัญชงที่ถูกกฎหมาย
- การสูบกัญชา-กัญชง เพื่อผ่อนคลายเป็นการส่งเสริมสุขภาพจิต สามารถทำได้ แต่ต้องสูบในบ้านเรือนของตัวเองย่างมิดชิด ไม่สร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยรณรงค์ หรือแนะนำให้มีการสูบกัญชาเพื่อผ่อนคลายใดๆ เพราะการนำกัญชามาสูบไม่เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่กลับเป็นโทษด้วย
สิ่งที่ทำไม่ได้ หรือไม่ควรทำ หลังประกาศ "ปลดล็อกกัญชา"
- ไม่สามารถใช้สารสกัดจากพืชกัญชา กัญชงที่มีสาร THC เกิน 0.2% เพราะยังเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 อยู่
- ไม่สามารถสูบกัญชาแบบม้วนได้ เพราะไม่มีอากรแสตมป์ของกรมสรรพสามิตติดไว้อย่างถูกต้องเหมือนบุหรี่ ว่าง่ายๆ คือไม่สามารถนำเอากัญชาไปมวนแล้วบรรจุซองแบบบุหรี่ได้ เพราะกรมสรรพสามิตยังไม่อนุญาต จึงไม่มีการจำหน่ายกัญชาแบบมวนและทำให้ไม่สามารถสูบกัญชาแบบมวนได้ย่างถูกต้องตามไปด้วย
- สูบกัญชาในที่สาธารณะไม่ได้ เนื่องจากกลิ่นและควันจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย ยังจะออกประกาศกำหนดให้กลิ่นและควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใดในทำนองเดียวกันเป็นเหตุรำคาญ มาใช้ควบคุมการสูบกัญชาด้วย ดังนั้นการสูบกัญชา -กัญชง ในที่สาธารณะจะขัดต่อประกาศนี้ จึงเป็นสิ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง
ข้อมูลจาก กรมประชาสัมพันธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง