เปิดสัดส่วนคนไทยใช้กัญชา เพื่อสันทนาการมากที่สุด

ประเทศไทยเคยถูกจับตามองจากนานาชาติในฐานะหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาให้สามารถใช้ได้อย่างเสรี โดยเฉพาะหลังวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่มีการถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 อย่างเป็นทางการ ทว่าเพียงไม่ถึง 2 ปี รัฐบาลไทยได้ประกาศจุดยืนเตรียมนำ “กัญชา” กลับเข้าเป็นยาเสพติดประเภท 1 อีกครั้งในปี 2567 พร้อมข้อยกเว้นการใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และวิจัย โดยให้เหตุผลว่าการใช้กัญชาในทางที่ไม่เหมาะสมกำลังกลายเป็นปัญหาสุขภาพและสังคม
สถิติการใช้กัญชาในไทย: สวนทางความตั้งใจ
จากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสถาบันวิจัยต่าง ๆ พบว่า การใช้กัญชาของประชาชนไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการปลดล็อก:
ปี 2565 มีผู้ใช้กัญชาสันทนาการมากถึง 11 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีเพียง 1.89 ล้านคน ในจำนวนนี้ ราวร้อยละ 64 ใช้เพื่อสันทนาการ ขณะที่เพียงร้อยละ 16 ใช้เพื่อการแพทย์เด็กและเยาวชนกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ โดยพบว่าอัตราการใช้กัญชาในวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าภายใน 2 ปีกลุ่มเยาวชนนอกระบบการศึกษา มีการใช้กัญชาถึงร้อยละ 47.6 ภายในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา
กัญชา: จากความหวังสู่ความเสี่ยง
แม้เจตนารมณ์ของการปลดล็อกกัญชาจะเน้นเพื่อ ใช้ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ แต่ในทางปฏิบัติกลับขาดกลไกควบคุมที่มีประสิทธิภาพ เช่น การจำกัดอายุผู้ใช้ การออกใบอนุญาตสถานประกอบการ หรือการควบคุมโฆษณาชวนเชื่อ
ผลกระทบเริ่มสะท้อนในหลายด้าน ทั้งในรูปแบบของอาการทางจิต เช่น หลอน ประสาทหลอน ซึมเศร้า ตลอดจนปัญหาทางสังคมที่ตามมา เช่น การขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมา หรือการใช้ในโรงเรียน
แนวทางใหม่ของรัฐบาล
รัฐบาลภายใต้แผนงานของกระทรวงสาธารณสุข เตรียมออกประกาศให้ “กัญชา” กลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดประเภท 1 ในปี 2567 โดยจะมีข้อยกเว้นสำหรับ:
- การใช้ในทางการแพทย์ตามใบสั่งแพทย์
- การใช้เพื่อการวิจัย
- การผลิตภายใต้ระบบควบคุมตามกฎหมาย
พร้อมกับออกกฎหมายควบคุมกัญชาแบบเฉพาะกิจเพื่อไม่ให้กระทบต่อการรักษาผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
