รีเซต

'ชนบทจีน' กำลังเปลี่ยนไปแบบ 'พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ'

'ชนบทจีน' กำลังเปลี่ยนไปแบบ 'พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ'
Xinhua
13 กันยายน 2563 ( 16:53 )
202
'ชนบทจีน' กำลังเปลี่ยนไปแบบ 'พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ'

13 ก.ย. (ซินหัว) -- ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พื้นที่ชนบทอันกว้างใหญ่ไพศาลของจีน กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หมู่บ้านชนบทต่างๆ ล้วนมุ่งมั่นปักธงกำจัดความยากจน สร้างงานสร้างอาชีพ เพื่อนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง บางแห่งใช้ประโยชน์จากถนนหนทางที่มีการพัฒนาและธรรมชาติที่สวยงาม พัฒนาตนเองให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ บางแห่งก็ใช้ข้อได้เปรียบทางภูมิศาตร์ปรับปรุงพัฒนาตนเองจนกลายเป็นแหล่งไร่ชา บ้างก็ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐในท้องถิ่นด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมท้องถิ่นจนหลุดพ้นจากความแร้นแค้น แม้ว่าวิธีการและแนวทางของแต่ละหมู่บ้านจะแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือเป้าหมายการคว้าชัยเหนือความยากจนยกตัวอย่างเช่น หมู่บ้านภูเขาโกวเอ่อร์ผู่ ในอำเภอเต้าฝู แคว้นปกครองตนเองกานจือ กลุ่มชาติพันธุ์ทิเบต มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ที่ในอดีตเคยติดกับดักความยากจนอย่างสาหัส ปัจจุบันกลับกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งถนนคอนกรีต ฟาร์มเกษตรสำหรับการท่องเที่ยวชนบท โฮมสเตย์ ฯลฯในปี 2019 หมู่บ้านโกวเอ่อร์ผู่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 3A ของจีน พ่วงด้วยดีกรีหมู่บ้านสาธิตด้านการฟื้นฟูชนบทแห่งมณฑลซื่อชวน และรางวัลอื่นๆ ปัจจุบัน ที่นี่ยังกลายเป็น "ที่เที่ยวยอดฮิตที่ต้องมาเช็กอิน" ของบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังอำเภอเต้าฝูอีกด้วย

 

 

เมื่อ 8 ปีก่อน หมู่บ้านต้าอู ในตำบลหลายฟู่ เมืองอี๋ปิน มณฑลซื่อชวน เป็นหมู่บ้านยากจนที่พบได้ทั่วไปตามพื้นที่ภูเขา ที่นี่ไม่มีทั้งอุตสาหกรรมและถนนหนทางสำหรับสัญจร รายได้ของชาวบ้านก็น้อยนิด แต่เศรษฐกิจที่ล้าหลังและการเดินทางอันยากลำบากได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว ทุกวันนี้ หมู่บ้านต้าอูที่มีสภาพดินและอากาศที่เอื้อแก่การปลูกชา ได้มุ่งพัฒนาการปลูกชาอย่างจริงจัง เพื่อช่วยชาวบ้านพ้นจนและปูทางไปสู่ความมั่งมีนอกจากนี้ ที่นี่ยังมีการดึงดูดเงินทุนเพื่อนำมาพัฒนาท้องถิ่นอย่างรอบด้าน เช่น การปลูกพืชและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ด้วยการร่วมมือกับสหกรณ์และองค์กรธุรกิจจากนอกชุมชน อุตสาหกรรมต่างๆ ของที่นี่จึงมีพลวัตและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนรายได้สุทธิต่อหัวของชาวบ้านที่นี่ในปี 2019 อยู่ที่ 20,000 หยวน (ราว 91,000 บาท) ต่อปี

 

 

หมู่บ้านอาโห่ว ในอำเภอสี่เต๋อ แคว้นปกครองตนเองเหลียงซาน กลุ่มชาติพันธุ์อี๋ มณฑลซื่อชวน ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูง 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่มีชาวจีนกลุ่มชาติพันธุ์อี๋สร้างบ้านอยู่อย่างกระจัดกระจาย แต่เดิมชาวบ้านที่นี่แร้นแค้นในระดับที่ต้องปลูกมันเพื่อกินประทังชีวิตและเลี้ยงไก่เพื่อใช้แลกเกลือ ซึ่งเป็นสภาพการดำรงชีวิตที่ย่ำแย่จนยากจะบรรยายแต่ทว่าด้วยความช่วยเหลือของรัฐวิสาหกิจอย่างบริษัทสเตต กริด ซื่อชวน อิเล็กทริก พาวเวอร์ (State Grid Sichuan Electric Power) ที่นี่จึงมีบริษัทด้านการเกษตรเข้ามาลงทุนและมีการจัดตั้งสหกรณ์ขึ้น เพื่อส่งเสริมช่องทางการทำกินของชาวบ้านผ่านการร่วมมือกันของบริษัทผู้ประกอบการ สหกรณ์ เกษตรกร และ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โครงการต่างๆ ผุดขึ้นมากมาย อาทิ การปลูกต้นลิลลี่พันธุ์กินได้ การปลูกต้นเป้ยหมู่ (ป่วยบ้อ) หรือดอกหัวงู ตลอดจนผลไม้มีหนามต่างๆ และนอกจากพืชแล้วก็ยังส่งเสริมให้เลี้ยงแกะพันธุ์ดี ปลาน้ำเย็น และหมู โดยเฉพาะลิลลี่พันธุ์ท้องถิ่นที่สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของยาได้ไม่เพียงเท่านั้น หมู่บ้านอาโห่วยังได้ตัดถนนคอนกรีตและมีการสร้างบ้านใหม่ที่มีพื้นที่สำหรับเพาะปลูกเล็กๆ ขึ้นอีก 73 หลัง เพื่อบรรเทาความยากจน ให้ทุกครัวเรือนเข้าถึงไฟฟ้าและน้ำประปา จนถึงเมื่อสิ้นปี 2019 ที่ผ่านมา รายได้ต่อหัวของครอบครัวชาวบ้านยากจนในหมู่บ้านสูงถึง 8,979 หยวน (ราว 41,000 บาท) ต่อปี เพิ่มขึ้นจากตัวเลขเมื่อปี 2015 ซึ่งอยู่ที่ 1,500 หยวน (ราว 6,800 บาท) ต่อปี

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง