เมื่อจีนใช้มังกรน้อย พลิกฟื้นชนบท (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

อย่างที่ผมเกริ่นไว้ในตอนที่ผ่านมาว่า หนึ่งในกลไกที่จีนใช้ในการผลักดันเพื่อให้การสร้างความกระชุ่มกระชวยในพื้นที่ชนบทบรรลุเป้าหมายในระยะสั้นและระยะยาว ก็ได้แก่ การโยกย้าย “มังกรน้อย” ที่เปี่ยมด้วยความรู้ ประสบการณ์ พลัง และความทะเยอทะยานลงสู่พื้นที่ดังกล่าว
สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การเปิดกิจการที่มีโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจและเพิ่มรายได้ให้คนในท้องถิ่น รวมทั้งการใช้นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิต วันนี้ ผมจะขอพาไปส่องกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมกันครับ ...
คนหนุ่มในวัย 35 ปีและจบการศึกษาด้านพืชสวนจากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ภายหลังสั่งสมประสบการณ์ทำงานโดยร่วมมือกับญาติทำธุรกิจผ้าม่านในชุมชนเมืองอยู่พักใหญ่
ในปี 2011 ชีวิตของเขาก็มีอันต้องผกผันครั้งใหญ่เมื่อได้รับทราบว่า กิจการฟาร์มแตงโมของครอบครัวในบ้านเกิดที่มีคุณพ่อเป็นหลักในการดูแลประสบปัญหาการขาดทุนครั้งใหญ่ ขณะที่หลายครัวเรือนในพื้นที่ก็กำลังดิ้นรนอย่างหนักกับปัญหาการตีบตันของตลาด
เขาตัดสินใจเดินทางกลับบ้านในทันทีเพื่อใช้ความรู้และประสบการณ์ในการพลิกฟื้นธุรกิจใหม่ และมุ่งหวังที่จะช่วยเหลือชาวบ้านในท้องถิ่นให้หลุดพ้นจากปัญหาดังกล่าว และด้วยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง เขาประสบความสำเร็จแรกด้วยการขายแตงโมคุณภาพสูงที่มีราคาต่ำให้กับซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายผลไม้
แต่เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเบ็ดเสร็จในวงกว้าง ในปีต่อมา เขาจึงได้ตัดสินใจจัดตั้ง “สหกรณ์แตงโมและผัก” ในเขตชื่อโช่ว (Shishou) เมืองจิงโจว (Jingzhou) มณฑลหูเป่ย พื้นที่ตอนกลางของจีน โดยให้ความสำคัญกับการจัดหาต้นกล้าให้กับเกษตรกรและสนับสนุนตลอดกระบวนการตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการขาย
เพื่อยกระดับสู่การทำการเกษตรสมัยใหม่ สหกรณ์ตระหนักดีถึงความสำคัญในการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้และเทคนิคทางการเกษตรแก่สมาชิกในวงกว้าง สหกรณ์ภายใต้การนำของเขาจึงหารือความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
โชคดีที่รัฐบาลจีนมีนโยบาย “การสร้างความกระชุ่มกระชวยในพื้นที่ชนบท” ในภาพใหญ่ โครงการตามแนวคิดดังกล่าวจึงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อาทิ สถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งมณฑลหูเป่ย (Hubei Academy of Agricultural Sciences) และสถาบันฯ ระดับเมืองจิงโจว (Jingzhou Academy of Agricultural Sciences) และวิทยาลัยพืชสวนและการจัดสวนของมหาวิทยาลัยแยงซี (School of Horticulture and Gardening of Yangtze University)
ความร่วมมือดังกล่าวทำให้สหกรณ์ได้ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภาครัฐมาเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมด้านเทคนิคแก่สมาชิกหลักเป็นประจำแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 6,000 คน-ครั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
และเพื่อพัฒนาโอกาสในการสร้างรายได้ในเชิงคุณภาพอย่างสร้างสรรค์ สหกรณ์ยังร่วมมือกับสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งเมืองจิงโจวพัฒนาเทคนิคการทำเกษตรอินทรีย์ และยังรับเอาแตงโมพันธุ์ใหม่ที่ได้รับคำแนะนำจากสถาบันวิจัยในจีนเพื่อหวังเพิ่มรสชาติแตงโม
นอกจากนี้ สหกรณ์ยังพยายามเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยผู้นำคนเก่งของสหกรณ์ได้พัฒนารูปแบบการเพาะปลูกใหม่ อาทิ การเพาะปลูกแตงโม 2 รอบและผัก 1 รอบต่อปี
สิ่งนี้ทำให้สหกรณ์สามารถสร้างประโยชน์จากการขยายตัวของรายได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นในเชิงปริมาณ ขณะที่ผลผลิตของสหกรณ์ก็ถูกยกระดับในเชิงคุณภาพ โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน “อาหารสีเขียวเกรดเอ” รวมทั้งยังสามารถจดสิทธิบัตรเทคนิคการเพาะปลูกดังกล่าวของตนเองเป็นจำนวนมาก หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ผลิตได้มากขึ้น ขายในราคาที่ดีขึ้น พร้อมด้วยศักยภาพที่เต็มเปี่ยม”
ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สหกรณ์สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2022 สมาชิกหลักของสหกรณ์มีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นถึงกว่า 30,000 หยวนต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต
การเติบโตของสหกรณ์ในเชิงปริมาณและคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมดังกล่าวช่วยดึงดูดคนหนุ่มสาวที่เคยทำงานในชุมชนเมืองให้กลับมา และทำให้สหกรณ์มีคนรุ่นใหม่คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของจำนวนสมาชิกโดยรวม
เมื่อสอบถามถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นดังกล่าว ผู้นำสหกรณ์ได้ให้คำตอบอย่างน่าคิดว่า “ชนบทในยุคใหม่เป็นดินแดนแห่งคำมั่นสัญญาและเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์สำหรับผู้ประกอบการและคนหนุ่มสาวที่กลับบ้านเกิดเพื่อมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากโอกาสที่สดใส”
ปัจจุบัน สหกรณ์แตงโมและผักมีสมาชิกมากกว่า 350 คน มีฐานการเพาะปลูกใหญ่จำนวน 5 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 2,100 ไร่ และมีเรือนเพาะจำโครงเหล็กมากกว่า 5,000 แห่ง
นอกจากนี้ สหกรณ์ยังได้จัดตั้งโรงเรือนผลิตต้นกล้าที่ทันสมัยขนาด 4,000 ตารางเมตร ตลาดการค้าสินค้าเกษตรขนาด 20,000 ตารางเมตร และห้องเย็นขนาด 1,500 ตัน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเพาะปลูกและรองรับผลผลิตในเชิงคุณภาพ ทำให้สหกรณ์กลายเป็นแหล่งดูงาน “ต้นแบบ” ให้หลายชุมชนรากหญ้าได้แวะเวียนไปเรียนรู้ในวงกว้าง
จีนยังมีหลายกรณีศึกษาที่น่าสนใจ แต่วันนี้พื้นที่หมด ต้องไปติดตามกันต่อในตอนหน้าครับ ...
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
