รีเซต

‘กสิกรไทย’ คลอดโครงการ ‘เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ’ ควัก 500 ล้านบาทอุ้มแรงงานระดับล่าง

‘กสิกรไทย’ คลอดโครงการ ‘เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ’ ควัก 500 ล้านบาทอุ้มแรงงานระดับล่าง
มติชน
16 เมษายน 2563 ( 15:28 )
48
‘กสิกรไทย’ คลอดโครงการ ‘เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ’ ควัก 500 ล้านบาทอุ้มแรงงานระดับล่าง

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย และถือเป็นครั้งแรกที่ได้รับผลกระทบกันแทบทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ พนักงาน และประชาชนทั่วไป ธนาคารกสิกรไทยจึงจัดทำโครงการเถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจขึ้นมา ภายใต้งบประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยแรงงานได้ประมาณ 15,000 คน โดยธนาคารจะช่วยเจ้าของธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารในการลดดอกเบี้ย และการชำระหนี้เป็นศูนย์ เป็นเวลา 6 เดือน และเจ้าของธุรกิจจะออกเงินอีกครึ่งหนึ่งสมทบเพื่อช่วยเหลือพนักงานให้สามารถอยู่รอดได้ในสถานการณ์วิกฤต และเพื่อไม่ให้ผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลต่อการจ้างงาน

 

โดยเฉพาะแรงงานระดับล่างของระบบเศรษฐกิจที่มีรายได้เฉลี่ยที่ 10,000-15,000 บาทต่อเดือน เนื่องจากหากภาคธุรกิจได้รับผลกระทบรุนแรงมากๅ ก็จะลดค่าใช้จ่ายผ่านการปรับลดหรือเลิกจ้างพนักงาน ทำให้เกิดปัญหาคนตกงานเพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มต้นที่ผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ต 127 รายที่มีคุณสมบัติตามที่ธนาคารกำหนด พร้อมตั้งงบช่วยเหลือ 100 ล้านบาท ช่วยพนักงาน 3,000 คน เป็นระยะเวลา 6 เดือน และเตรียมขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

 

นายบัณฑูรกล่าวว่า เงื่อนของโครงการนี้คือ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจโรงแรม จะต้องได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างทันทีและโดยตรง รวมถึงผู้ประกอบการนั้นๆ จะต้องมีเงินกู้กับธนาคารไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อให้ธนาคารสามารถลดดอกเบี้ยให้ได้ นอกเหนือจากนี้ ยังมีโครงการอื่นๆ ที่จะทำเพิ่มเติมอีก อาทิ การปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งรัฐบาลจะรับผิดชอบหากมีกรณีหนี้เสียเกิดขึ้นในสัดส่วน 70% และธนาคารก็ร่วมรับด้วยอีก 30% เพราะในสภาวะแบบนี้ ต้องยอมรับว่าสัดส่วนหนี้ที่จะกลายสภาพเป็นหนี้เสียมีค่อนข้างสูงอยู่แล้ว

 

โครงการนี้ธนาคารจะจ่ายเงินแบบโดยตรงให้กับพนักงานผ่านบัญชีเงินเดือน (เพย์โรล) ทันที เพื่อให้แน่ใจว่าถึงมือลูกจ้างอย่างแท้จริง ในส่วนของโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) จะมีการปล่อยกู้ช่วยผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลาง(เอสเอ็มอี) โดยสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ จะต้องหากวิธีการควบคุมให้เงินเข้าตรงถึงมือผู้รับที่เป็นแรงงานระดับล่างได้อย่างถูกต้อง ไม่ใช่เข้ากระเป๋าของผู้ประกอบการหรือคนที่ไม่สมควรได้รับเหมือนที่เคยผ่านๆ มา

 

ตั้งโจทย์ไว้แล้วว่าจะเก็บพนักงานไว้ 1 คน ต้องใช้เงินประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้แรงงานมีเงินเลี้ยงตัวเองต่อไป ธนาคารกสิกรไทยมีรายได้ตามสัญญาจากดอกเบี้ย จะนำเงินรายได้จากส่วนนี้มาช่วยผู้ประกอบการและแรงงานอาทิ รายได้จากดอกเบี้ยอยู่ที่ 5,000 บาท ธนาคารจะปล่อยให้เป็นศูนย์ เพื่อออกช่วยผู้ประกอบการครึ่งหนึ่ง และให้ผู้ประกอบการออกเองอีกครึ่งหนึ่ง โดยธนาคารยังมีกำลังที่จะทำได้ ซึ่งโครงการนี้ไม่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อต่างๆ แต่แทงศูนย์ในส่วนของรายได้ที่พึ่งจะได้ไป

 

ส่วนผู้ประกอบการเองก็ต้องแทงศูนย์ในส่วนของต้นทุนของตัวเอง เพื่อรักษาคนที่อยู่ล่างสุดในระบบธุรกิจให้มีชีวิตต่อได้ โดยมั่นใจในระบบธนาคารขณะนี้ว่ามีความแข็งแกร่งมากพอ ที่จะสามารถรับแรงกระแทกจากวิกฤตโควิด-19 ที่มีผลกระทบรุนแรงได้ แตกต่างจากวิกฤตในช่วง 25 ปีก่อน ที่ยังเตรียมตัวไม่ทันนายบัณฑูรกล่าว

 

นายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมในเครือกะตะธานี เปิดเผยว่า วิกฤตในครั้งนี้ ถือเป็นวิกฤตที่ใหญ่และรับมือยากมาก เพราะเป็นเรื่องของโรคระบาด ไม่เหมือนทุกวิกฤตที่ผ่านมา อาทิ เหตุการณ์สึนามิ ที่สามารถป้องกันและฟื้นฟูหลังเกิดเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ภาคธุรกิจเอกชนได้เรียนรู้และแข็งแกร่งขึ้น

 

ซึ่งแม้โควิด-19 จะมีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชากรโลก แม้โรงแรมยังยืนยันว่าจะไม่มีการการปรับลดพนักงานแต่อย่างใด เนื่องจากได้เตรียมพร้อมในการรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไว้แล้ว ซึ่งการเข้ามาช่วยเหลือของธนาคารกสิกรไทย ก็ทำให้ผู้บริหารและพนักงานมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ว่าหากสถานการณ์มีความยืดเยื้อต่อไปอีกมากกว่าที่คาด โรงแรมจะยังสามารถรักษาพนักงานไว้ได้อย่างครบถ้วน

 

นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป เปิดเผยว่า พนักงานเป็นทรัพย์สินอันทรงคุณค่าของธุรกิจ ไม่เคยคิดเลิกจ้างพนักงาน ในสถานการณ์ปกติพนักงานช่วยทำงาน สร้างความมั่งคั่งให้ธุรกิจในยามเจอวิกฤตก็ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน เพราะเชื่อมั่นว่ายามที่พนักงานลำบาก แล้วเจ้าของไม่ทอดทิ้ง คอยประคับประคองให้เขาอยู่ได้ เมื่อวันที่โรงแรมกลับมาเปิดอีกครั้ง พนักงานทุกคนจะกระตือรือล้น มุ่งมั่นและรักในองค์กรมากขึ้น จึงอยากแนะนำให้องค์กรต่าง รักษาพนักงาน ช่วยเหลือและอย่าทอดทิ้ง ขณะนี้มีเพียงธนาคารแห่งเดียว คือธนาคารกสิกรไทยที่เล็งเห็นความสำคัญของพนักงาน นี่คือคุณธรรมล้ำเลิศของผู้บริหารธนาคาร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง