รีเซต

"สมาคมนักวิเคราะห์" ชี้เป้า "หุ้นไทย" ปี 68 ที่ 1,231 จุด หั่น EPS เหลือ 85.43 บาท มองปัจจัยกดดันรอบด้าน

"สมาคมนักวิเคราะห์" ชี้เป้า "หุ้นไทย" ปี 68 ที่ 1,231 จุด หั่น EPS เหลือ 85.43 บาท มองปัจจัยกดดันรอบด้าน
TNN ช่อง16
3 กรกฎาคม 2568 ( 09:44 )
7

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน หรือ IAA เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนรวม 22 สำนัก เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนไตรมาส 3 ปี 2568 คาดการณ์ทิศทางหุ้นไทย คาดว่าจะปิดสิ้นไตรมาส 3 ที่ 1,166 จุดและเมื่อมองตลอดปี จะแกว่งตัวในกรอบ 1,023 ถึง 1,267 จุด โดยไปปิดสิ้นปี 2568 ที่ 1,231 จุด

คาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2568 ของตลาดเฉลี่ยได้ที่ 85.43 บาทปรับลดจากผลสำรวจครั้งก่อน ซึ่งอยู่ที่ 90.03 บาท ต่อหุ้น และคาดว่า EPS Growth ของปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 10.45% บนสมมติฐาน GDP ปี 68 โดยตัวเลขต่ำสุด 1.4% ตัวเลขสูงสุดคือ 2.4%โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.87% ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน (เม.ย.68) ซึ่งเคยใช้สมมติฐานที่ 2.56%

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อทิศทางการลงทุนจนถึงสิ้นปี 2568 แบ่งเป็น ปัจจัยบวกที่มีผู้โหวตเกิน 50% มีเพียง 2 ปัจจัย คือ อัตราดอกเบี้ยในประเทศ ผู้ตอบแบบสำรวจ 90.91 % เทคะแนนให้อย่างชัดเจน ปัจจัยรองลงมา ผู้ตอบ 72.73% โหวตให้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ

ส่วนปัจจัยลบ คือ ปัจจัยด้านการเมืองในประเทศ มีผู้ตอบ 100% ของ ผู้ตอบทั้งหมด รองลงมาเศรษฐกิจภายในประเทศ มีผู้ตอบ 85.71% ตามมาด้วย Fund Flows ไหลออก และปัจจัยขัดแย้งไทย-กัมพูชา มีผู้ตอบ 80.95% เท่ากันที่มองว่ามีผลกระทบในทางลบ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบอีก 3 ปัจจัยที่โหวตเกิน 50% คือ การเมืองโลก เศรษฐกิจโลก และผลประกอบการปี 68 ของ บจ.ไทย

ปัจจัยที่น่าจับตามองเป็นพิเศษในไตรมาส 3 คือ การเมืองในประเทศ ตามมาด้วยผลการเจรจาเรื่องการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ส่วนคาดการณ์การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสิ้นปี 2568 นั้นมีความเห็นต่างกันพอสมควร โดยผู้ตอบ 71% คาดว่าลดลงจากเดิมมาอยู่ที่ 1.50% และมีเพียง 29% มองว่าอาจลดลงมาที่ 1.25%โดยไม่มีผู้มองว่าอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นหรือคงที่ระดับเดิม

นักวิเคราะห์แนะนำให้มีการกระจายพอร์ตการลงทุน แบ่งเป็น

-เงินสดและเงินฝากระยะสั้น 11.50%

-กองทุนตราสารหนี้ 20.25%

-หุ้นหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 33.50%

-หุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 19%

-ทองคำหรือกองทุนทองคำ 10.55%

-กองทุนอสังหาฯหรือ REIT 5.20%

โดยความเห็นการลงทุนต่างประเทศ แนะนำกองทุนตราสารหนี้สหรัฐฯ หรือกลุ่ม AI-Technologyและ Selective Asia เช่น จีน เวียดนาม อินเดีย เกาหลี

ทั้งนี้มีหลักทรัพย์ที่เกี่ยวกับการลงทุนต่างประเทศและทองคำ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (DR DRx) ที่แนะนำตรงกันตั้งแต่ 4 สำนักขึ้นไป มีดังนี้ (เรียงชื่อตามอักษรย่อ) ได้แก่ AAPL80 AMD80 NVDA80

สำหรับในการลงทุนหุ้นไทยนั้น แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ในหมวดธุรกิจท่องเที่ยว การแพทย์ เทคโนโลยีและการสื่อสาร ในขณะที่ให้ลดน้ำหนักการลงทุนใน หมวดธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม พลังงานและปิโตรเคมี

รายชื่อหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 6 สำนักขึ้นไป มีดังนี้(เรียงชื่อตามอักษรย่อ)

ADVANC มองว่าผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/68 เติบโต โดยรายได้หลักๆ ธุรกิจมือถือ APRU เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงโมเมนตัมดี ส่วนธุรกิจลูกค้าองค์กร ได้แรงหนุน Data center and Cloud ขณะที่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก –พรีเมียร์ลีกอังกฤษ คาดส่งผลเชิงบวกในระยะยาวต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ

BDMS มองว่าเป็น Defensive play ที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวขณะที่ ผลประกอบการ 2Q25 คาดได้แรงหนุนจากผู้ป่วยในประเทศที่เร่งตัวขึ้นตามโรคระบาดที่กลับมาอีกครั้ง

CPALL ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ และคาดกำไรไตรมาส 2/68 ยังโตต่อเนื่อง

GULF ปัจจัยสนับสนุนจากผลการดำเนินงานมั่นคงจากธุรกิจไฟฟ้าและ ADVANC จ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ โอกาสเติบโตเข้าสู่ธุรกิจ Digital

หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ หุ้นบางบริษัทในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ที่ราคาเกินพื้นฐานได้รับผลกระทบจาก CAP WEIGHT และหุ้นที่มีประเด็นธรรมาภิบาลที่ต้องใช้เวลาสร้างความเชื่อมั่น

นักวิเคราะห์ยังได้เพิ่มเติมการแนะนำไปยังรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายที่จะมีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจมีความคุ้มค่ากับงบประมาณ ได้แก่ เร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนภาครัฐที่หนุนศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ พัฒนาอุตสาหกรรม New S-Curve

และเทคโนโลยี เสนอด้านการช่วยเหลือภาคธุรกิจ ได้แก่ ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ควบคุมการสวมสิทธิ์ ลดการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากจีนที่กดดันผู้ประกอบการในประเทศ และตามมาด้านการช่วยเหลือภาคประชาชน ได้แก่ มาตรการลดหย่อนภาษี โครงการคนละครึ่งสนับสนุนการศึกษา ส่งเสริมวิชาชีพ และพัฒนาทักษะแรงงาน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง