หุ้นไทยครึ่งปีหลังยังเสี่ยงทำจุดต่ำสุดใหม่ ชี้เป้าหุ้นน่าสนใจ-จับทิศทาง Fund Flow

กระแสตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังยังไม่สดใส คุณณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า มองตลาดยังมีโอกาสทำจุดต่ำสุดใหม่ (New Low) แม้ระยะสั้นจะเข้าสู่ภาวะไซด์เวย์ดาวน์ (Sideways Down) ชี้ปัจจัยกดดันหลักยังเป็นเรื่องภาษี 36% ที่รอความชัดเจน พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุน-จับตากลุ่มโรงพยาบาลอาจเป็นดาวเด่น หากงบไตรมาส 2 ฟื้นตัว

คุณณรงค์เดช จันทรไพศาล ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE โดยยังคงมุมองเดิมว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ แม้ในระยะสั้นตลาดจะซึมซับปัจจัยลบไปมากแล้วก็ตาม ทั้งจากประเด็นสงครามการค้า (Trade War) และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ทำให้การปรับตัวลงแรงๆ ในทันทีอาจยังไม่เกิดขึ้น

"ตลาดในช่วงนี้จะเป็นลักษณะแกว่งตัวด้านข้างในเชิงของไซด์เวย์ดาวน์ อาจจะเห็นจังหวะลงมาทดสอบแนวรับอีกครั้ง แต่โอกาสที่จะร่วงลงไปแรงๆ เลยในระยะสั้นผมคิดว่าคงยังไม่มี" คุณณรงค์เดชกล่าว

จับตา! ผลประกอบการไตรมาส 2 ตัวชี้วัดสำคัญ

ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดคือ การรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินทิศทางตลาด หากผลประกอบการโดยรวมออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นการปรับลดประมาณการและแรงเทขายอีกระลอก

อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังว่าผลประกอบการอาจไม่แย่อย่างที่กังวล เนื่องจากไตรมาส 2 เป็นช่วงที่มีการเร่งส่งออกเพื่อสต็อกสินค้าก่อนมาตรการภาษีจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งอาจช่วยพยุงตัวเลขของกลุ่มส่งออกได้บ้าง

กลยุทธ์ลงทุน: ครึ่งปีหลังยังต้องระมัดระวัง ชี้เป้า “หุ้นโรงพยาบาล”

บล.ไอร่า ยังคงแนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุนในหุ้นไทย เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจยังเปราะบาง และมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดคาดการณ์ GDP ลงอีก หากนโยบายภาษี 36% ยังคงอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบหนักในช่วงไตรมาส 3 และ 4

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน คุณณรงค์เดชแนะให้มองหาหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามากแล้ว และตลาดมีความกังวลมากเกินไป โดยชี้เป้าไปที่ "กลุ่มโรงพยาบาล" เช่น BH และ BDMS

"กลุ่มโรงพยาบาลเป็นหุ้น Defensive ที่ราคาปรับตัวลงมาต่อเนื่องจน Valuation น่าสนใจมาก PE ลดลงมาเหลือประมาณ 16 เท่า จากในอดีตที่สูงถึง 40-50 เท่า ตอนนี้อยู่ที่ว่าผลประกอบการจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหรือยัง หากงบไตรมาส 2 ออกมาฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด ก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ"

ส่วนกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่าง KCE และ HANA ที่เคยแนะนำก่อนหน้านี้ ได้ปรับตัวขึ้นไปรับข่าวแล้ว จึงไม่แนะนำให้ไล่ราคา แต่ควรรอดูผลประกอบการจริงเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

Fund Flow ยังไม่เข้าไทย เวียดนามดูดีกว่า

ในประเด็นของ Fund Flow คุณณรงค์เดชประเมินว่า ยังไม่มีแนวโน้มที่เม็ดเงินต่างชาติจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดเพื่อนบ้านแล้วยังไม่มีความได้เปรียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เวียดนาม" ซึ่งได้เปรียบทั้งในด้านข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น (ไตรมาส 1 โต 7%)

"Flow มีโอกาสไหลเข้าบ้านเราค่อนข้างน้อย ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่าน่าจะไปทางฝั่งเวียดนามหรือจีนมากกว่า ดังนั้นการคาดหวังว่า SET จะฟื้นตัวง่ายๆ คงเป็นไปได้ยาก น่าจะเป็นจังหวะซึมๆ ไปก่อน"

มุมมองสินทรัพย์อื่น: น้ำมันยังเป็นขาลง - Bitcoin ลุ้นทำ New High

• ราคาน้ำมัน: ยังคงมองเป็น แนวโน้มขาลง และมีโอกาสปรับตัวลงได้อีก เนื่องจากกลุ่ม OPEC+ มีแนวโน้มที่จะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานในไทยต่อไป

• Bitcoin (BTC): แม้ระยะสั้นจะมีการพักตัว แต่ภาพรวม โมเมนตัมหลักยังเป็นขาขึ้นและมีโอกาสทำ New High แนะนำฝั่งซื้อ (Long) อาจสะสมได้ แต่ต้องมีจุด Stop Loss ที่ชัดเจนบริเวณ 17,000 ดอลลาร์

• ทองคำ: อยู่ในช่วง พักตัวในแนวโน้มขาขึ้น ไม่ได้มีสัญญาณกลับตัวเป็นขาลงที่ชัดเจน คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 3,360 ดอลลาร์ และแนวรับที่ 3,245-3,250 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถใช้กลยุทธ์เทรดในกรอบได้