รีเซต

“แอร์เอเชีย” ลุยไทยเต็มตัว   ผนึก AOT ยกระดับดอนเมือง

“แอร์เอเชีย” ลุยไทยเต็มตัว   ผนึก AOT ยกระดับดอนเมือง
ทันหุ้น
24 พฤศจิกายน 2568 ( 01:45 )

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แคปปิตอล เอ (Capital A ประเทศมาเลเซีย)  แอร์เอเชีย บริษัทแม่ของกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า กลุ่ม Capital A  คาดว่ากระบวนการปรับโครงสร้างองค์กรจะเสร็จสิ้นในปี 2568 นี้    ดังนั้นตั้งแต่ปี 2569  เป็นต้นจะเป็นปีแห่งการเติบโตของทั้งกลุ่ม Capital A และกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย ที่จะขยายธุรกิจสายการบินให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น รวมถึงการประสานการบริการ – ขนส่งผู้โดยสารระหว่างสายการบินระยะสั้นและระยะไกลภายใต้แบรนด์เดียวกันให้ได้รับความสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับในประเทศไทย

               กลุ่ม Capital A  เห็นถึงศักยภาพการเป็นศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งมีความพร้อมที่พัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางการบินที่สมบูรณ์แบบ (Full Aviation Hub) ซึ่งทางกลุ่ม Capital A อยู่ระหว่างเจรจาร่วมกับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เพื่อเสนอความพร้อมที่จะเข้าลงทุนโครงการคลังสินค้าหรือพัสดุโดยเครื่องบิน  (Cargo) รวมถึงศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน  (Maintenance, Repair, and Overhaul : MRO) รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชีย

 * มองไทยศูนย์กลางการบินเอเชีย

               นายโทนี่ กล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมการบินว่า ยังคงมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางระหว่าประเทศเป้าหมายหลักของกลุ่ม Capital A เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น  อินเดีย บรูไน เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฯลฯ ยังสามารถเติบโตเป็นอย่างดี ขณะที่ตลาดจีนแม้จะฟื้นตัวช้า แต่เชื่อว่าจะฟื้นตัวกลับมาต่อเนื่องได้

               ทั้งนี้กลุ่ม Capital A อยู่ระหว่างศึกษาแผนการเปิดเส้นทางบินใหม่ให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพมากขึ้น เมื่อสถานการณ์รัฐภูมิศาสตร์ในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายลง อาทิ กรุงเทพฯ - มอสโก พร้อมกันนี้ ได้เสนอแนะให้รัฐบาลไทยเร่งฟื้นความเชื่อมั่นในตลาดจีน ควบคู่เร่งสร้างประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับโลก  เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรม  สถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่เป็นธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์  แหล่งช็อปปิ้ง - จับจ่ายใช้สอย  มีอาหารหลากหลาย ฯลฯ

*เสนอปรับค่าธรรมเนียม

นอกจากนี้ นายโทนี่ ยังเสนอให้รัฐบาลพิจารณาปรับเพดานค่าธรรมเนียม อาทิค่าธรรมเนียมภายในท่าอากาศยานที่มีทั้งในส่วนของผู้ให้บริการ อาทิ AOT  กรมการบินพลเรือน  บริษัทวิทยุการบิน จำกัด ฯลฯ รวมถึงอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันอากาศยาน ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บอยู่ในอัตรา 4.726 บาทต่อลิตรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สามารถแข่งขันกับท่าอากาศยายนานาชาติระดับโลกได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง