BCPG กำไร Q2/67 ที่ 1,243.4 ลบ. โต 518.3% แต่กำไรจากดำเนินงานปกติลดลง
#BCPG #ทันหุ้น-บริษัท บีซีพีจี จำกัด(มหาชน) หรือ BCPG แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ไตรมาส 2/67 มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ ที่ 1,243.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 518.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 201.12 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติในงวดไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 99.2 ล้านบาท ลดลง 45.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน YoY และลดลง 71.1% จากไตรมาสก่อน QoQ
โดยกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ลดลง YoY เป็นผลจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยลดลง จากการสิ้นสุด adder , การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยลดลง จากค่าไฟฟ้าผันแปร(Ft) ปรับลดลง, การรับรู้ผลการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นลดลง จากค่าความเข้มแสงที่ลดลง ทั้งนี้ได้ได้มีการจำหน่ายโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดในญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567, ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย และการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด
อย่างไรก็ตาม การรับรู้ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือในไทย โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสปป.ลาว โรงไฟฟ้าพลังงานลมในฟิลิปปินส์ และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ ช่วยบรรเทาผลกระทบบางส่วน
กำลัการผลิตตามสัญญารวม ณ สิ้นไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 1,178.3 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากสิ้นไตรมาส 2/66 117.1%
ทั้งนี้เมื่อวันที่26 มิถุนายน 2567 กลุ่มบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมด 9 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 116.8 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 89.7 เมกะวัตต์) รวมถึงบริษัทย่อยในประเทศญี่ปุ่นซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) และการให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (Operation & Maintenance) โดยการจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญในบริษัทย่อยและเงินลงทุน รวมมูลค่าซื้อขาย 42,970 ล้านเยนหรือ 10,377 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 24.15 บาท ต่อ 100 เยน) โดยกลุ่มบริษัทฯ ได้รับชำระค่าหุ้นดังกล่าวจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว
การจำหน่ายสินทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นเป็นไปตามแผนการดำเนินธุรกิจระยะยาวของกลุ่มบริษัทฯ ในการเข้าพัฒนาโรงไฟฟ้าตั้งแต่ก่อนการก่อสร้างจนกระทั่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ แล้วทำการจำหน่ายให้แก่นักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดที่มั่นคง เพื่อสร้างโอกาสทำกำไรสูงสุด นอกจากนั้น กลุ่มบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำกระแสเงินสดจากการจำหน่ายโครงการฯ กลับมาใช้รองรับโครงการลงทุนใหม่ๆ เป็นการเพิ่มศักยภาพในการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว