SETแบบนี้ต้อง..กล้า รึ กลัว..? กูรูจัดให้ #หุ้นนี้พี่ชอบ
ข่าววันนี้ สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า #ผ่าเกมเซียน SETแบบนี้ต้อง กล้า รึ กลัว ? “อ.นิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์” ชี้จุดต้องกล้า หาจังหวะเข้าหุ้นดีดันโต ฟาก “ภควัต พิสุทธิพันธุ์”จัดให้หุ้นเล็กทรงดี ปีหน้าไปต่อ
* * โอกาสของผู้กล้า ?
“อ.นิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์”กรรมการผู้จัดการ สถาบันการลงทุน QIQP บล.ไอร่า จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ"ทันหุ้น"ว่า ตลาดหุ้นไทยแบบนี้ นักลงทุนต้องกล้า แต่ต้องกล้าให้ถูกเวลา โดยจังหวะซื้อคาดว่าน่าจะช่วงปลายเดือน ต.ค. จากนั้นจะเห็นตลาดหุ้นเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ย.64 จนถึงเดือนเม.ย.65 ซึ่งการปรับตัวลงรอบนี้เป็นการลงเพื่อขึ้นรอบใหม่ 1700 หรือ 1750 จุดมีโอกาสได้เห็น แต่ถามว่าจุดต่ำสุดน่าจะลงไปแตะระดับไหนนั้น 1550 หรือ 1500 จุดมีความเป็นไปได้ทั้งหมดเช่นกัน
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญมากกว่าการปรับขึ้น หรือ ลงของดัชนีตลาดหุ้นไทย คือ การเลือกหุ้นรายตัว นักลงทุนต้องเลือกหุ้นที่ดี มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ อาทิ KBANK , MAKRO , HANA , KCE , GPSC , EA , SINGER ส่วนหุ้นขนาดกลาง-เล็กอาจต้องดูหุ้นที่ยังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือได้รับผลกระทบจากโควิดที่ยังไม่ฟื้น อาทิ ZEN ได้รับผลกระทบจากโควิดแล้วผลงานมีโอกาสฟื้นกลับมาได้หรือไม่ เป็นต้น ซึ่งนักลงทุนต้องหาข้อมูลให้มากเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในการลงทุน
"ข่าวร้ายจะทยอยออกมากดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น ดังนั้นก็รอจนกว่าแรงขายจะหมด หรือจนกว่าดัชนีจะถึงจุดต่ำสุด ซึ่งเราก็ไม่รู้จะลงไปต่ำสุดที่จุดไหน อาจจะเป็นช่วงกลางเดือน ต.ค. จากนั้นช่วงปลายเดือน ต.ค.ตลาดเริ่มยืนได้ และเริ่มฟื้นตัวในเดือนพ.ย.ไปจนถึงเดือนเม.ย.65"
* *คิดจะรับ 1600-1585
“ภควัต พิสุทธิพันธุ์”ผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ ลูกค้ารายย่อย บล.ซีจีเอสซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวกับ"ทันหุ้น"ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มองว่าแกว่งไซต์เวย์ แนวรับ 1600 , 1585 จุด แนวต้าน 1630 จุด โดยประเด็นที่นักลงทุนติดตามคงเป็นเรื่องการประชุมเฟด 21-22 ก.ย.64 ซึ่งจะทราบผลชัดเจนช่วงเช้า วันที่ 23 ก.ย.64 โดยหลายฝ่ายจับตามุมมองเศรษฐกิจและดอกเบี้ย ส่วน QEนั้นคาดว่ายังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆออกมา
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ติดตามการปรับเพดานหนี้ การกู้เงินและการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งอาจจะทำให้ค่าบาทอ่อนช่วงสั้น นอกจากนี้ติดตามการประชุมศบค.วันที่ 27 ก.ย.64 ว่าจะมาตรการคลายล็อค อย่าง โรงภาพยนต์ หรือ ฟิตเนส ออกมาหรือไม่ และการประชุม กนง. วันที่ 29 ก.ย.64 จะมีการส่งสัญญาณอะไรออกมาหรือไม่
ส่วนกรณีปัญหาของ Evergrande มองว่านักลงทุนกังวลมากเกินไปว่าจะเหมือนวิกฤติซัพไพร์ม แต่ส่วนตัวไม่ได้มองว่าจะกลายเป็นวิกฤติขนาดนั้น อีกทั้งกองทุนในไทยที่ไปลงทุนใน Evergrande มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน มองว่าหุ้นเล็กจะเป็นตัวนำรอบนี้ แนะนำ AJ เล่นรอบสั้นได้ หรือถือลงทุนระยะยาวได้เช่นกัน เนื่องจากมองว่าดีมานเติบโตดี ส่วนซัพพลายจะกลับมาดีในปี 65 บวกกับการจับมือพันธมิตรจะเริ่มรับรู้รายได้ ส่งผลให้ผลงานปีหน้าสดใส มองแนวรับ 20.30-20.00 บาท Stop loss ถ้าหลุด 19.00 บาท ส่วนแนวต้าน 21.20 , 22.10 บาท