คิวบานำแพทย์หลายร้อยคนที่ไปทำงานต่างประเทศกลับบ้านเกิด และเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นศูนย์กักตัวและโรงพยาบาล

คิวบาเป็นประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีเมื่อปีที่แล้ว และได้ส่งแพทย์ไปให้ความช่วยเหลือทั่วโลก รวมถึงพัฒนาวัคซีนของตนเอง แต่ขณะนี้กำลังเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ เนื่องจากไวรัสโควิดสายพันธุ์ Delta ส่งผลกระทบต่อการรักษาพยาบาลและการชันสูตรพลิกศพในหลายพื้นที่ของประเทศ

ล่าสุด รัฐบาลคิวบาได้นำแพทย์หลายร้อยคนที่ไปทำงานต่างประเทศกลับบ้านเกิด และเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นศูนย์กักตัวและโรงพยาบาล เพื่อต่อสู้กับวิกฤตโควิดแล้ว

 

 

รายงานระบุว่า ตัวเลขเฉลี่ย 7 วันของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยัน เพิ่มขึ้น ถึง 8 เท่าภายใน 2 เดือน เป็น 5,639 คนต่อประชากร 1 ล้านคน มากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึงสิบเท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ย 7 วันของจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดที่ได้รับการยืนยัน อยู่ที่ประมาณ 52 คนต่อประชากร 1 ล้านคน มากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึง 6 เท่า และคาดว่าจำนวนจริงอาจสูงกว่านี้

 

 

นอกจากนี้ 1 ใน 5 ของผู้รับการตรวจหาเชื้อโควิดมีผลเป็นบวก มากกว่าอัตราผู้ติดเชื้อ 5% ที่องค์การอนามัยโลกตั้งไว้ถึง 4 เท่า

 

 

การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรวดเร็ว เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของคิวบาในรอบหลายทศวรรษ ส่งผลให้มีการขาดแคลนยารักษาโรคและต้องต่อคิวรอซื้อสินค้าที่มีไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้การล็อกดาวน์เป็นเรื่องยุ่งยาก

 

 

ขณะที่รัฐบาลคิวบาไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ ต่อประเด็นดังกล่าว แต่ประณามสหรัฐฯ ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรเข้มงวดต่อคิวบา ทำให้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้กับประชาชนได้ช้า เนื่องจากการจัดหาปัจจัยการผลิตวัคซีนทำได้ยากลำบาก ขณะที่นักวิเคราะห์ตำหนิว่าเป็นเพราะรัฐบาลคิวบาบริหารเศรษฐกิจของประเทศได้ไม่มีประสิทธิภาพมากกว่า

 

 

คิวบาเพิ่งเริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ประชาชนไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดชาวคิวบา 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดกว่า 11.2 ล้านคนได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว

 

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากรัฐบาลคิวบาชี้ว่า สัปดาห์แรกของเดือนนี้ อัตราผู้เสียชีวิตจากโควิดที่กรุงฮาวานา ซึ่งประชากรเกือบ 2 ใน 3 ฉีดวัคซีนครบแล้ว อยู่ที่ 0.69% ขณะที่อัตราการเสียชีวิตทั่วประเทศอยู่ที่ 0.93% แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนต้านโควิดช่วยลดการเสียชีวิตได้