รีเซต

รู้จัก Sleep Tourism ทำไมการท่องเที่ยวเพื่อไปนอน ถึงเป็นที่นิยม ?

รู้จัก Sleep Tourism ทำไมการท่องเที่ยวเพื่อไปนอน ถึงเป็นที่นิยม ?
TNN ช่อง16
14 เมษายน 2568 ( 16:07 )
14

วันหยุดยาวนี้ หลายคนคงรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน แล้วเลือกที่จะนอนเฉยๆ หรือพักผ่อน แต่ปัจจุบัน มีเทรนด์การไปเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากขึ้น คือการท่องเที่ยวเพื่อการนอน หรือเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และจิตใจผ่านการนอนหลับให้มีคุณภาพ หรือที่เรียกว่า ‘Sleep tourism’ 


‘Sleep Tourism’ เมื่อการนอนหลับคือเป้าหมายของการท่องเที่ยว

ปัจจุบัน ผู้คนได้หันมาสนใจ และให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ซึ่งปัญหาอย่างการนอนหลับไม่เพียงพอ หรือนอนไม่หลับก็เป็นสิ่งที่คนเผชิญมากขึ้น จนเกิดเป็นแนวคิดใหม่ในการท่องเที่ยว ที่มุ่งเน้นให้แขกได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ

แต่ Sleep Tourism ไม่ใช่การเปลี่ยนที่นอน เพื่อไปนอนเฉยๆ ทั้งวัน แต่เป็นการบำบัดเพื่อเปลี่ยนให้การนอนมีคุณภาพขึ้น โรงแรมและรีสอร์หลายแห่งเริ่มหันมาให้บริการที่เน้นการส่งเสริมการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นการเสนอโปรแกรมการนอนหลับแบบครบวงจร การบำบัดด้วยเสียง การทำสมาธิแบบมีไกด์ สปาเพื่อการผ่อนคลาย เมนูหมอนที่เลือกได้ตามความชอบ หรือแม้แต่ห้องพักที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการนอนหลับ

การท่องเที่ยวเพื่อการนอนหลับคือ ภาพสะท้อนของยุคสมัยที่ผู้คนต้องการมากกว่าการพักผ่อนธรรมดา แต่ต้องการการฟื้นฟูจากภายใน ว่าการเดินทางไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนสถานที่ แต่เป็นการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างเงื่อนไขใหม่ให้ร่างกายได้ฟื้นตัวอย่างแท้จริงด้วยการผสมผสานของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพ 


แล้วนอนแบบไหน ที่ต่างออกไปจากการนอนเฉยๆ 

หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือ โรงแรม Park Hyatt ที่ให้บริการ Bryte Sleep Suites ซึ่งใช้เตียงอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถปรับระดับความนุ่มแน่นและตอบสนองต่อจุดกดของร่างกายได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังปลุกแขกให้ตื่นอย่างนุ่มนวล หรือโรงแรม London West Hollywood ก็เลือกใช้เทคโนโลยี Bryte เช่นกัน โดยซิงค์การเคลื่อนไหวของที่นอนเข้ากับเสียงดนตรีผ่อนคลาย เพื่อสร้างประสบการณ์การนอนที่สมบูรณ์แบบ

ด้านโรงแรม Proper Santa Monica มีบริการอาบน้ำด้วยเสียง (Sound Bath) มีการสร้างคลื่นเสียงเพื่อช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายด้วย

แต่บางโรงแรมก็ไม่ได้มีแค่อุปกรณ์ หรือเตียงเพื่อให้นอนหลับได้สบาย อย่างโรงแรม Rosewood และ Six Senses Ibiza มีโปรแกรมที่ผสานทั้งการบำบัดด้วยสปา โยคะ สมาธิ โภชนาการ และเทคนิคการฟื้นฟูการนอนหลับ หรือที่ Anantara ถึงขั้นมีการจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ ในโปรแกรมเฉพาะบุคคล เพื่อตอบโจทย์สภาพร่างกายและจิคใจของแขกแต่ละคนด้วย 

โรงแรม Hilton เอง ยังได้จับมือกับ Calm ซึ่งเป็นแอปสำหรับการทำสมาธิ เพื่อนำเสนอการผ่อนคลายแบบมีไกด์ผ่านทีวีในห้องพัก ร่วมกับชุดอุปกรณ์อะโรมาเทอราพี แสงไฟตามจังหวะชีวิตประจำวัน และหน้าต่างกระจกสามชั้นที่ช่วยลดเสียงรบกวน ซึ่งอแมนดา อัล-มาสรี  รองประธานฝ่ายสุขภาพของโรงแรมฮิลตันกล่าวว่า “การนอนหลับอย่างสบายต้องเริ่มต้นก่อนที่คุณจะวางหัวลงบนหมอน” ด้วย

หลายโรงแรมในลอนดอนยังขจัดสิ่งรบกวนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทีวีหรือโทรศัพท์ บางแห่งมีเมนูหมอนให้เลือก เช่นหมอขนห่าน หมอนสำหรับป้องกันการกรนเป็นต้น

‘Sleep Tourism’ เป็นเทรนด์แค่ไหน ?

รายงานแนวโน้มปี 2025 ของ Hilton พบว่า นักเดินทางถึง 49% ระบุว่าเหตุผลหลักในการเดินทางของพวกเขาคือการพักผ่อนและการชาร์จพลังใหม่ และถึง 63% ระบุว่าพวกเขานอนหลับได้ดีกว่าเมื่ออยู่ในโรงแรม และนักเดินทางระดับหรู 70% เลือกโรงแรมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เน้นการนอนหลับ นักเดินทางหลายคนยังชี้ว่า ชื่นชอบกิจกรรม "นอนทั้งวัน" และ “แขกมักจะบอกเราว่าการนอนหลับเป็นส่วนสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการเข้าพัก”

ทั้งตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2022 การเดินทางเพื่อดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ต่อปี ตามข้อมูลของ Global Wellness Institute และการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์เหล่านี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 ในแต่ละปี ในภาษาสก็อตยังมีคำที่เรียกว่า "bedgasm" จนทำให้เกิดเทรนด์การออกแบบห้องพักที่แยกการนอนระหว่างคู่รัก เพื่อลดการรบกวนระหว่างกันด้วย

แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าแนวคิดการจ่ายเงินเพื่อ "ไปนอน" อาจดูเป็นเรื่องฟุ่มเฟือย แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผู้คนในยุคนี้ต่างตระหนักถึงคุณค่าของการนอนหลับมากขึ้น Rajesh Srinivas ผู้จัดการทั่วไปของโรงเรม Swastik ชี้ว่า การนอนหลับไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นผลลัพธ์ของการดูแลรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม กิจวัตร อาหาร และเทคนิคการบำบัดแบบองค์รวม

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Therabody SmartGoggles ที่ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ ถังกักประสาทสัมผัส (Sensory Deprivation Tanks) และ Brain Gauge Pro ที่วิเคราะห์สมองเพื่อออกแบบโปรแกรมการนอนเฉพาะบุคคล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่หมอนหรือม่านกันแสงอีกต่อไป

เทรนด์นี้จึงไม่ได้เป็นเพียงลูกเล่นทางการตลาด แต่เป็นการตอบโจทย์วิถีชีวิตสมัยใหม่ที่ต้องเผชิญกับความเครียด ความวุ่นวาย และการเชื่อมต่อที่ไม่เคยหยุดพัก การนอนหลับที่มีคุณภาพอาจเป็นคำตอบสำคัญของการมีชีวิตที่ดีขึ้น และการท่องเที่ยวก็กลายเป็นเครื่องมือที่จะพาผู้คนไปถึงจุดนั้นได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง