รีเซต

5 ประเด็นสำคัญ หลังสภาคองเกรสเปิดไต่สวน แฉรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดบังเรื่อง UFO

5 ประเด็นสำคัญ หลังสภาคองเกรสเปิดไต่สวน แฉรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดบังเรื่อง UFO
TNN ช่อง16
29 กรกฎาคม 2566 ( 00:30 )
91

วันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่าน อดีตนักบินรบกองทัพเรือและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย เดวิด กรัช (David Grusch) อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ,ไรอัน เกรฟส์ (Ryan Graves) และเดวิด ฟราเวอร์ (David Fravor) อดีตนักบินรบกองทัพเรือสหรัฐฯ ขึ้นให้การต่อสภาคองเกรสเกี่ยวกับข้อกล่าวหารัฐบาลสหรัฐอเมริกาปกปิดความลับของ UFO หรือปรากฏการณ์ทางอากาศที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ (Unidentified Aerial Phenomena - UAP)


การไต่สวนครั้งนี้จัดขึ้นโดยคณะอนุกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติด้านแนวพรมแดนและกิจการต่างประเทศ สภาคองเกรสของสหรัฐฯ โดยมีมูลเหตุมาจากก่อนหน้านี้เดวิด กรัช (David Grusch) ได้กล่าวโจมตีรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเปิดเผยผ่านสื่อมวลชนทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยเขาระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ปิดบังความจริงเกี่ยวกับ UAP และเก็บชิ้นส่วนยานบินลึกลับมาได้นานหลายทศวรรษ ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการหน่วยงานตรวจสอบวัตถุและยานบินลึกลับให้กับหน่วยงานด้านข่าวกรองสหรัฐฯ


1. รัฐบาลครอบครอง UAP เทคโนโลยียานบินลึกลับ


เดวิด กรัช (David Grusch) อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ แสดงความมั่นใจในระหว่างการให้การว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จงใจปิดบังความจริงเกี่ยวกับการพบเห็น UAP โดยอ้างว่าตนเองได้สอบปากคำพยานที่อ้างว่าเคยพบเห็น UAP มาแล้ว 40 คน ในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองเป็นคณะกรรมการสอบสวนกรณีการพบเห็น UAP ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ


2. ตรวจพบ 'สารชีวภาพที่ไม่ใช่มนุษย์' ที่จุดตกของ UAP


ในระหว่างที่เดวิด กรัช (David Grusch) เป็นคณะกรรมการสอบสวนกรณีการพบเห็น UAP ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ส่วนที่ทำการเก็บกู้ชิ้นส่วนของยาน UAP ที่ตกลงบนโลกและข้อมูลการตรวจสอบสารชีวภาพที่ไม่ใช่มนุษย์ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่เดวิด กรัช นำเสนอไม่ได้ระบุว่าสารชีวภาพดังกล่าวเป็นของสิ่งมีชีวิตชนิดใดและเขาใช้ชื่อเรียกมันว่า "Nonhuman" ซึ่งไม่ได้เป็นข้อสรุปบ่งชี้ถึงเอเลี่ยนหรือสิ่งมีชีวิต โดยเขาไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ไปมากกว่านี้  

3. ข้อเรียกร้องให้มีกระบวนการสอบสวนที่โปร่งใส 


รัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ประชาชนมีสิทธิรับรู้ความจริงเกี่ยวกับกิจกรรมโครงการหรือหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาล ทำให้ในระหว่างการไต่สวนมีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลจากหน่วยงานของสหรัฐฯ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางอากาศที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ (UAP) รวมอยู่ด้วย


4. ความพยายามคุกคามผู้พบเห็น UAP


หนึ่งในคำให้การสำคัญของอดีตนักบินรบกองทัพเรือและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เรียกร้องให้หยุดความพยายามคุกคามหรือสร้างผลกระทบต่ออาชีพการทำงานของผู้ที่พบเห็น UAP รวมไปถึงการลดความน่าเชื่อถือของพยานด้วยวิธีการต่าง ๆ จากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเขามีข้อมูลว่านักบินที่เผยแพร่เรื่องราวการพบเห็น UAP หลายคนโดนไล่ออกจากกองทัพในข้อหาเปิดเผยข้อมูลและสร้างทฤษฎีสมคบคิด


5. เทคโนโลยีของ UAP ทำความเร็วเหนือเสียงแต่ไม่ใช้ใบพัดหรือไอพ่น


ในระหว่างการพิจารณาคดีเดวิด ฟราเวอร์ (David Fravor) และไรอัน เกรฟส์ (Ryan Graves) อดีตนักบินรบกองทัพเรือสหรัฐฯ อ้างว่าในช่วงปี 2004 ตนเองได้พบเห็น UAP อย่างชัดเจนในระหว่างการฝึกซ้อมบินนอกชายฝั่งแอตแลนติก โดยเทคโนโลยีการบินของ UAP สามารถบินหนีการตรวจสอบด้วยความเร็วเหนือเสียง โดยไม่พบว่ามีใบพัดหรือไอพ่น ก่อนปรากฏขึ้นอีกครั้งในไม่กี่วินาทีต่อมาห่างออกไป 60 ไมล์ หรือ 96.7 กิโลเมตร ซึ่งความสามารถดังกล่าวแตกต่างและทันสมัยมากกว่าเทคโนโลยีการบินของอากาศยานรูปแบบต่าง ๆ ที่สหรัฐอเมริกาใช้งานอยู่ในปัจจุบันหรือแม้แต่ในอีกหลาย 10 ปีข้างหน้า


อย่างไรก็ตามการให้การของอดีตนักบินรบกองทัพเรือและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่มีการชี้ชัดไปที่หลักฐานการพบเห็น UFO และ UAP ดังนั้นจึงยากที่จะสรุปได้ว่าสิ่งมีชีวิตต่างดาวหรือเทคโนโลยีการบิน UFO มีอยู่จริง บทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดยังคงต้องรอการตรวจสอบและหลักฐานที่ชัดเจนมากกว่าในปัจจุบัน


UFO และ UAP ไม่ได้แปลว่ายานเอเลี่ยนต่างดาว 


คำว่า UFO ย่อมาจาก Unidentified Flying Object ซึ่งแปลว่าวัตถุบินที่ไม่สามารถระบุได้ คำว่านี้ถูกใช้ครั้งแรกในปี 1948 ในช่วงสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ในช่วงเวลาดังกล่าวมีรายงานการพบเห็นวัตถุบินที่ไม่รู้จักจำนวนมาก ซึ่งต่อมามีการสอบสวนและรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่ามันเป็นเพียงชิ้นส่วนบอลลูนตรวจอากาศ รวมไปถึงเทคโนโลยีเครื่องบินทดสอบที่เป็นความลับสูงสุดของกองทัพสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงแรก ๆ ของการเริ่มต้นของกลุ่มคนที่เชื่อว่าวัตถุบินบนท้องฟ้าเหล่านั้นเป็นยานเอเลี่ยนต่างดาว รวมไปถึงสมมุติฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างดาวอีกหลายรูปแบบ


ส่วนคำว่า UAP ย่อมาจาก Unidentified Aerial Phenomena แปลตรงตัวได้ว่าปรากฏการณ์ทางอากาศที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ คำว่านี้ถูกใช้ครั้งแรกในปี 2020 โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อแทนที่คำว่า UFO โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการเชื่อมโยงกับความเชื่อและสมมุติฐานเรื่องวัตถุบินจากต่างดาว รวมไปถึงปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถระบุที่มาที่ไปทางวิทยาศาสตร์ได้ด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน


ที่มาของข้อมูล NBCNewsBBC

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง